ในสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ช่วง เทศกาลตรุษจีน เป็นช่วงเวลาที่คนไทยเชื้อสายจีนได้มีกิจกรรมที่จะสร้างเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจไทยเหมือนกับหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2564 จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินผลจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วง เทศกาลตรุษจีน ปี 64 พบคนกรุงฯจะใช้จ่ายลดลงในทุกกิจกรรม โดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ทำบุญ และการแจกเงินแต๊ะเอีย
แม้ว่าภาครัฐจะมีการผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบยาวนานและยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 63 ทำให้คาดว่า
บรรยากาศของการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจจะไม่คึกคัก และผู้บริโภคน่าจะมีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างประหยัดกว่าปีก่อนๆ คาดจะมีเงินใช้จ่าย 11,700 ล้านบาท หดตัวติดลบ 10.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สำหรับการใช้จ่ายแบ่งเป็นการใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ 5,600 ล้านบาท ติดลบ 5.1% การใช้จ่ายท่องเที่ยว,ทำบุญ,ทานข้าวนอกบ้าน 2,900 ล้านบาท ติดลบ 20.8% และการแจกเงินแต๊ะเอีย 3,200 ล้านบาท ติดลบ 8.1% อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด รวมถึงมาตรการในการควบคุมของภาครัฐอีกครั้ง
ซึ่งหากพื้นที่กรุงเทพฯ กลับมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนภายหลังจากการผ่อนปรนมาตรการฯ ก็อาจจะทำให้การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ หดตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด
นอกจากนี้ โควิด-19 ยังเร่งการปรับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของคนกรุงเทพฯ โดยหันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์หรือโทรสั่งซื้อให้ผู้ประกอบการทำการจัดส่งแทนการออกไปเลือกซื้อสินค้าเองมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย และพยายามเว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น ทำให้คนกรุงเทพฯ กว่า 34% หันมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนผ่านช่องออนไลน์มากขึ้นกว่าปีก่อนที่มีเพียง 11% เท่านั้น
ขณะเดียวกัน คนกรุงเทพฯ กว่า 43% สนใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ที่จัดสำเร็จรูปไว้แล้วเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้าที่มีเพียง 22% เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครันและสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่
ดังนั้น หากผู้ประกอบการมีการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้เร็ว ก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังคงมีรายได้เข้ามาหมุนเวียน หรือประคับประคองธุรกิจภายใต้แรงกดดันต่างๆ ไว้ได้
ขณะที่ ผู้ประกอบการต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพของสินค้าและราคาที่เหมาะสม เพราะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ผ่านช่องทางออนไลน์ของคนกรุงเทพฯ จากการสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ ที่ยังไม่สนใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ผ่านช่องทางออนไลน์หรือโทรสั่ง เนื่องจากส่วนใหญ่กว่า 84% กังวลในเรื่องของคุณภาพของเครื่องเซ่นไหว้
โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และผลไม้ รองลงมา 75% เห็นว่าเครื่องเซ่นไหว้มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับการออกไปเลือกซื้อเอง และกว่า 60% เครื่องเซ่นไหว้ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ยังมีให้เลือกจำกัด และไม่หลากหลาย
“หากผู้ประกอบการสามารถปรับกลยุทธ์และแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพ และจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงหรือแตกต่างจากหน้าร้านมากเกินไป หรือผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวกันมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการอาจจะมีโปรโมชั่นบริการจัดส่งฟรี กรณีที่ผู้บริโภคสั่งซื้อเป็นเซ็ตตามยอดใช้จ่ายที่กำหนด หรือจัดส่งฟรีทุกคำสั่งซื้อ ก็น่าจะจูงใจผู้บริโภคท่ามกลางกำลังซื้อที่เปราะบาง และต้องการสินค้าที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา เป็นต้น”