
ช่วงเริ่มต้นปี 2023 ดูเหมือนว่าในปีนี้จะถือว่าเป็นปีที่ดีของหุ้นบริษัทกลุ่ม E-Commerce จีน หลังจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องพบเจอกับมรสุมทั้งการออกกฎคุมเข้มต่าง ๆ ของรัฐบาลจีน , การ Lockdown ที่ส่งผลกระทบกับการบริโภคของคนจีน รวมถึงแรงกดดันจากสภาวะตลาดการลงทุนทั่วโลกที่เผชิญแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ฯ
โดยหลังจากที่ทางการจีนยกเลิกมาตรการ Zero COVID การบริโภคของคนจีนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งส่งผลบวกกับรายได้ของบริษัทในกลุ่ม E-Commerce นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้ส่งสัญญาณว่าจะกลับมาสนับสนุนกลุ่ม E-Commerce รวมถึง บริษัท Platform ต่างๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ซึ่งหากว่าย้อนกลับไปในช่วงที่บริษัท E-Commerce จะต้องเผชิญกับวิกฤติปัญหาในด้านต่าง ๆ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ JD.com ต่างก็ใช้กลยุทธ์ในการรับมือที่คล้ายกัน คือ การควบคุมค่าใช้จ่ายและการยุติการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ต่างกับกับบริษัท Pinduoduo อีกหนึ่งบริษัท E-Commerce รายใหญ่ของจีน ที่นอกจากจะเน้นการเติบโตในประเทศจีนเองแล้ว ยังได้ทำการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐ ฯ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตลาดที่บริษัทจีนหลายแห่งยอมแพ้ เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศที่ไม่สู้ดีนัก แต่ Pinduoduo กลับมองสหรัฐ ฯ เป็นหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการขยายธุรกิจ และดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอย่างดีด้วย
โดย Application Online budget shopping ที่ชื่อ Temu ของบริษัท Pinduoduo กำลังมาแรงอย่างมากในสหรัฐฯ มียอดดาว์นโหลดช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 57% ซึ่งเป็นผลมาจากจุดเด่นของ Application ที่เน้นขายของที่ลดราคาและราคาขายไม่สูงมากนักเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีทิศทางชะลอตัวลงในปีนี้
โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ยอดดาว์นโหลด Temu ในสหรัฐ ฯ สูงถึง 19 ล้านครั้งทำให้ยอดดาว์นโหลดรวมสูงถึง 33 ล้านครั้ง ทั้งๆ ที่ Temu พึ่งจะเปิดตัวในสหรัฐ ฯ ไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2022 ที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่ง Application Temu ติดการจัดอันดับต้น ๆ Application ที่มียอดดาว์นโหลดสูงสุดติดต่อกันอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนทั้ง App Store ของ Apple และ Google Play ของระบบ Android และจนถึงช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมายอดผู้ใช้งานที่ Active เฉลี่ยรายเดือนของ Temu สูงถึง 17 ล้านคน
สำหรับ Application Temu เติบโตได้ดีมาก ๆ ในตลาดนอกประเทศจีน เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจสินค้าราคาที่ไม่สูงมากนัก เนื่องจากเน้นขายสินค้าหลากหลายราคาไม่แพงที่ผลิตในประเทศจีน สำหรับสิ่งที่ดึงดูดใจลูกค้าในสหรัฐ ฯ คือการซื้อสินค้าราคาถูกได้โดยไม่มีค่าจัดส่ง และสามารถส่งคืนสินค้าได้หากว่าไม่พอใจสินค้าโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม รวมถึงการให้ส่วนลดเพิ่มเติมกับผู้ใช้งาน ซึ่งสินค้าใน Application มีตั้งแต่เครื่องประดับในราคาต่ำกว่า $1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ฯ ไปจนถึง เสื้อผ้าราคาต่ำกว่า $5 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ฯ
โดยจังหวะเวลาที่ Pinduoduo เลือกจะเปิดตัว Temu ในสหรัฐ ฯ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยทำให้ App Temu ประสบความสำเร็จเนื่องจากเป็นช่วงเวลา 2 เดือนก่อนที่จะถึงเทศกาล Black Friday ที่ถือเป็นเทศกาลช้อปปี้งสำคัญของคนอเมริกัน นอจากนี้ Pinduoduo ยังตัดสินใจซื้อโฆษณาเป็นเวลา 30 วินาทีในช่วงการแข่งขันอเมริกัน ฟุตบอล Super Bowl ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาที่ได้รับเรตติ้งสูงในสหรัฐ ฯ และมีผู้ชมรับชมการถ่ายทอดสดจำนวนมหาศาลถึงว่า 113 ล้านคน โดยใช้คำโฆษณาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานว่า “shop like a billionaire”
อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์ประเมินว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ Temu จะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด E-Commerce ในสหรัฐ ฯ เนื่องจากเจ้าตลาดเดิมอย่าง Amazon ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐ ฯ เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายครบถ้วน และยังมีบริการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียวกับที่ลูกค้าสั่งสินค้า รวมถึงการให้ส่วนลดและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผ่านการเป็นสมาชิก Amazon Prime ด้านสินค้าราคาไม่สูงมากนักจากผู้ผลิตในประเทศจีน Amazon ก็ยังมีพันธมิตรที่สามารถส่งสินค้าตรงมาจากประเทศจีน โดยอาศัยเครือข่ายที่ Amazon มีทั้งโกดังสินค้าและบริษัทขนส่ง ทำให้เป็นเรื่องยากที่ Temu จะสามารถนำเอาจุดเด่นของตัวเองมาเอาชนะ Amazon ได้
โดยหลังจากนี้ Temu จะต้องพยายามรักษาจำนวนผู้ใช้งานให้ยังคงกลับมาใช้ Application และคอยทบทวนตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ว่าสินค้าที่อยู่ใน Application สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสหรัฐ ฯ ได้อย่างแท้จริง ซึ่งในช่วงการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุด Chen Lei CEO ของบริษัท Pinduoduo ได้ออกมาระบุว่า App Temu นั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มแรกของการพัฒนาและต่อจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่การทบทวนพิจารณาหาข้อดีและข้อด้อยของ App เพื่อปรับปรุงให้พัฒนา Temu ให้ดียิ่งขึ้น
และถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่ Temu จะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดในสหรัฐ ฯ แต่การที่ตลาด E-Commerce ในสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมถึงยังน่าจะสามารถเติบโตได้อีกหลังจากนี้ โดยจากข้อมูลในปี 2022 คนอเมริกันใช้เวลารวมกันสูงถึงกว่า 2.8 พันล้านชั่วโมงในการอยู่ใน App ช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งหากว่า Temu สามารถยืนระยะในตลาดสหรัฐฯ ได้จริง ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท Pinduoduo ได้อย่างมหาศาล