HomeCOVID-19ตามไปดูเกณฑ์สาธารณสุข ชี้ขาดผ่อนคลาย"ล็อคดาวน์"

ตามไปดูเกณฑ์สาธารณสุข ชี้ขาดผ่อนคลาย”ล็อคดาวน์”

จับตาเกณฑ์วัดสาธารณสุข หลังนายกฯให้สาธารณสุขประเมิน ก่อนผ่อนคลายมาตรการ “ล็อคดาวน์” ให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการผ่อนคลายคุมโควิด-19
จากกระแสเรียกร้องมากขึ้นให้เกิดการผ่อนคลายมาตรการ “ล็อคดาวน์”ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยมีการพิจารณาถึงการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะผ่อนมาตรการลงได้เมื่อไร แต่พรก.ฉุกเฉินจะหมดเวลาการบังคับใช้สิ้นเดือนเม.ย.นี้

แต่ท่าทีของนายกรัฐมนตรีทำให้ชัดเจนขึ้นว่าว่าจะติดตามได้ตรงไหน ว่าเมื่อไรจะ “ปลดล็อค”

นายกรัฐมนตรี บอกว่า “ขอให้พิจารณาแนวทางและข้อกำหนดให้สอดรับกับมาตรการด้านสาธารณสุข หากสถานการณ์ดีขึ้นตามหลักเกณฑ์จะมีการผ่อนปรนในส่วนใดได้บ้าง”

“ในภาพรวมให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งจะต้องวิเคราะห์ ศึกษาทางสถิติ พิจารณาว่ากิจกรรมประเภทใดบ้างที่ผ่อนปรนได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพบางประเภทได้ ให้ประชาชนมีรายได้ เช่น การเปิดตลาดสด แต่สถานบันเทิงให้งดไว้ก่อน”

- Advertisement -

นายกฯให้ทุกหน่วยงานภายใต้การดูแลของหน่วยงานตนเองพิจารณาหากมีมาตรการผ่อนคลายจะต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร รวมทั้งพิจารณามาตรการตรวจสอบ การคัดกรอง ให้เหมาะสม การดำเนินการทุกอย่างให้ยังคงเป็นไปตามหลักการ Social Distancing สำหรับมาตรการ Work From Home ที่ยังต้องใช้จะปรับอย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่พัฒนาดีขึ้น

นายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเกี่ยวกับการตรวจเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ ให้เพิ่มการตรวจให้เข้มข้นในกลุ่มเสี่ยง ทำการสำรวจกลุ่มคนทำงานที่พบเจอคนจำนวนมาก เช่น แม่ค้า กลุ่มคนที่เคยตรวจไปแล้ว อาจพิจารณาตรวจอีกรอบเพื่อให้มั่นใจ ตลอดจนพิจารณาการสุ่มตรวจแรงงาน

ทั้งนี้ ให้สาธารณสุขชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าการวิจัย ให้ประชาชนทราบ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการ Re-use หน้ากาก N95

จากท่าทีของศบค. ทำให้ต้องไปติดตามมาตรการสาธารณสุขที่ว่าจะปลดล็อคได้เมื่อไร โดยกระทรวงสาธารณสุขยึดตามองค์การอนามัยโลก(WHO) ดังนี้

1.สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในประเทศได้แล้ว

2.ระบบสุขภาพต้องสามารถตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัวและทำการรักษา พร้อมทั้งการสอบสวนโรค

3.มีความเสี่ยงระดับน้อยที่สุด ในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่น บ้านพักคนชรา

4. โรงเรียน สำนักงานและสถานที่สาธารณสุขต่างๆต้องมีมาตรการตรวจโรคที่มีประสิทธิภาพ

5.สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้

6. คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการเกิดโรค

จากการฟังคำชี้แจงของกระทรวงสาธารณสุข ในข้อแรกดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดี แต่ที่ยัง “หนักใจ” และเป็น “งานหนัก”อยู่ในขณะนี้ คือ ข้อที่ 2 กับข้อที่ 6

อาจจเป็นไปได้ว่าในเร็วนี้จะมีการ “ปลดล็อค”บางพื้นที่ แต่ในพื้นที่ยังพบผู้ป่วยหนาแน่น ยังคงต้องเข้มงวดต่อไป

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News