บล.เอเชียพลัส ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ ผลกระทบหลังจากที่หุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง AWC หรือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยในบทวิเคราะห์ของ บล.เอเชียพลัส คาดว่า AWC จะมีมูลค่าตามตลาด หรือ Market Cap เกือบ 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้หุ้นบางบริษัทที่มี Market Cap เล็กกว่าหลุดจากการคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 (ซึ่งยังไม่แน่นชัดว่าจะใช้ Market Cap ช่วงเวลาไหนในการคำนวณ)
โดยฝ่ายวิจัยของ บล.เอเชียพลัส ทำการคัดกรองหุ้นที่มีโอกาสถูกคัดออกจากดัชนีสูงจากหุ้นที่มี Market Cap น้อยสุด 5 ลำดับแรกทั้งในดัชนี SET50 และ SET100 ได้ผลลัพธ์ดังนี้

ปกติแล้วหุ้นที่ถูกคัดออกจากดัชนีมักปรับตัวลดลงก่อนมีผลบังคับใช้เสมอ (ในช่วง 1 เดือนก่อนบังคับใช้ลดลงราว 2-3%) นอกจากนี้ด้วยขนาดของ AWC ที่ใหญ่กว่าหุ้นที่เล็กสุดใน SET50 มาก จึงน่าจะกินส่วนแบ่งเงินลงทุนของหุ้นใน SET50 อื่นๆอีก
ในอีกมุมหนึ่งหุ้น AWC มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน คือ กลุ่มอสังหาฯ โดย AWC มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มฯ (รองจาก CPN เท่านั้น) และมีสัดส่วนสูงถึง 18% ของกลุ่มฯ ทำให้อาจเห็นการแบ่งเงินลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาฯบางส่วนออกไปลงทุนใน AWC แทนในช่วงนี้ แม้อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯในระยะสั้น แต่ด้วย Valuation ที่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนน จึงถือเป็นจังหวะเข้าสะสมหุ้นอสังหาฯพื้น ฐานแกร่ง ราคาถูก เพื่อลงทุนในระยะกลางถึงยาว
สรุป คือ ประเด็น Index Fund ณ ปัจุบัน ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ส่งผลดีต่อหุ้น Big IPO อย่าง AWC ที่ได้เข้าคำนวณในดัชนี SET50, SET100 ระหว่างรอบคำนวณ รวมถึงช่วงที่กองทุนมีการปรับสัดส่วนพอร์ตหุ้นทั้งใน Passive Fund และกลุ่มหุ้นอสังหาฯ หากกดดันราคาหุ้นพื้นฐานแกร่งตัวอื่นๆย่อตัวลง ถือจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมหุ้น เพื่อลงทุนในระยะกลางถึงยาว