ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ และได้รับเงินโอนเข้าแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” แล้ว ต่างพาเหรดกันไปจับจ่ายกันเกินคาด จนทำให้บรรดาร้านค้าปลีกรายใหญ่หลายสาขาคนต้องต่อคิวจ่ายเงินกันเป็นชั่วโมง ประกอบกับระบบที่มีปัญหาในบางช่วงเวลา ทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดียพอสมควร
ไม่เพียงแต่คนใช้เงิน แต่ในมุมของร้านค้าหลายแห่งเองก็เจอกับความท้าทาย โดยเฉพาะการบริหารจัดการลูกค้า เพราะนัยหนึ่งก็ส่งผลต่อความพึงพอใจต่อร้านค้านั้นๆ ในอนาคตด้วย ทำให้ต้องมีการบริหารจัดการเรื่องคิวการจ่ายเงิน เพื่อลดเวลาการรอให้ได้มากที่สุด หรือแม้แต่การบริหารจัดการแถวการจ่ายเงินระหว่างลูกค้าที่จ่ายเงินปกติ และลูกค้าที่ใช้สิทธิ์ชิมช้อปใช้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
บล.ทิสโก้ ได้ไปสำรวจร้าน Big C ที่ร่วมมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ของภาครัฐที่มีปัญหาความยุ่งยากในการใช้งาน และมีปัญหาทำให้ลูกค้าต้องยอมทิ้งของไว้ในรถเข็น จากการตรวจสอบ ยอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น 33% ในช่วงของมาตรการ เช่นเดียวกับร้านค้าอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการ และเชื่อว่าในช่วงนี้สาขาอื่นๆ ของ Big C จะได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เพียงเงิน 1,000 บาท ในเป๋าตัง แต่ไม่ได้ใช้ Cash Back 15% และสินค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่สินค้าคงทน และสินค้าราคาแพงไม่ค่อยได้ประโยชน์
จากการสำรวจพบว่า Big C ได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคู่แข่งและได้เพิ่มช่องคิดเงินเป็น 11 ช่อง (จากเดิมที่ 1-2 ช่อง) และมีพนักงานประจำทุกช่อง พร้อมมีผู้จัดการคอยแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการชำระเงินต่อรายอยู่ที่ 5 – 6 นาทีต่อคน จากเดิมที่ 1 -2 นาที ทำให้ระยะเวลาการรอคิวอาจยาวได้ถึง 4 – 5 ชม. และปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากทางลูกค้ามากกว่าร้านค้า ทำให้เกิดความล่าช้าในการชำระเงินเช่น
ปัญหาที่พบบ่อย
กรณีแรก คือ ลูกค้าใช้สิทธิ์ของเพื่อนหรือคนสนิท โดยที่เจ้าของสิทธิ์ไม่ได้มาด้วย เป็นปัญหาที่พบบ่อย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ใช้เวลานาน เนื่องจากลูกค้าต้องไปเลขเลขบัตรประชาชนของเจ้าของสิทธิ์ หรือไปตามเจ้าตัวมายืนยันสิทธิ์ ซึ่งในกรณีแย่ที่สุดอาจเกินการทิ้งรถเข็นสินค้าไว้ที่จุดจ่ายเงิน
กรณีที่สอง ลูกค้ามาใช้สิทธิ์ผิดจังหวัด โดยลูกค้าเลือกลงทะเบียนในสิทธิ์ในจังหวัดหนึ่ง แต่มาจับจ่ายจริงอีกจังหวัดหนึ่ง เมื่อใช้สิทธิ์ผิดจังหวัด ปัญหาที่ตามมาคือการทิ้งรถเข็นสินค้า
กรณีที่สาม สัญญาณ Internet ของลูกค้าหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะพบกับลูกค้าที่ใช้บริการระบบเติมเงิน (Prepaid) เมื่อต้องชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง และไม่มี Internet จึงเข้าระบบไม่ได้ จนทำให้กระบวนการชำระเงินช้าลงตามมา
กรณีที่สี่ Wallet ไม่อัพเดท โดยจากข้อมูลของลูกค้าแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง มีการอัพเดทมาแล้วกว่า 11 รุ่น สำหรับ Android ทำให้ลูกค้าที่ Internet หมดไม่สามารถอัพเดทแอพพลิเคชั่นที่จุดชำระเงินได้ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบ wifi หรือ Internet ของลูกค้าท่านอื่น
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในปัจจุบันมีร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 1.7 แสนร้าน และคนใช้สิทธิ์ 10 ล้านคน ทำให้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการเปิดสิทธิ์เพิ่มอีก 2 แสนราย สำหรับคนที่ทำรายการไม่ทัน
ขณะที่กระทรวงการคลัง ระบุว่าจะมีโครงการระยะที่ 2 ที่จะให้ร้านค้าขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการ โดย บล.ทิสโก้ประเมินว่าโครงการนี้เป็นโครงการนำร่อง และจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหลังงบประมาณสำหรับปีหน้าผ่านในช่วงเดือน ต.ค. เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มค้าปลีกต่อใน 4Q19 ต่อเนื่องไปยังปี 2020F
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> “ชิมช้อปใช้” กับปัญหาที่กวนใจ
>> “ชิม ช้อปใช้” ใครได้
