HomeEditor's Pickถ้า “BREXIT” แบบ No-Deal แล้วไทยจะเป็นอย่างไร

ถ้า “BREXIT” แบบ No-Deal แล้วไทยจะเป็นอย่างไร

สหราชอาณาจักรมีกำหนดจะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.2562 แต่ได้เลื่อนขยายเวลาออกไป และนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรพยายามผลักดันให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปภายในวันที่ 31 ต.ค.2562

ซึ่งปัจจุบันยังคงไม่แน่นอนว่า สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปจะสามารถบรรลุข้อตกลงเบร็กซิตได้หรือไม่ ขณะนี้รัฐสภาสหราชอาณาจักรอยู่ระหว่างช่วงพักการประชุม และจะเปิดสมัยประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 14 ต.ค.2562 ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า สมาชิกรัฐสภาอาจไม่สามารถพิจารณาข้อตกลงเบร็กซิตฉบับใหม่ได้ทันกำหนด

โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาสหราชอาณาจักรตัดสินว่า การที่นายบอริสปิดประชุมรัฐสภานั้นขัดต่อกฎหมายและจะมีผลให้รัฐสภากลับมาประชุมตามปกติก็ยิ่งสร้างความไม่แน่นอนว่า นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรและทีมเจรจาเบร็กซิตของสหราชอาณาจักรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ในขณะที่สมาชิกรัฐสภาต้องการให้นายบอริสขอเลื่อนเวลาเบร็กซิตออกไปอีกเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดกรณี No-deal Brexit

พาณิชย์ชี้ “No-Deal” ดีกับไทยมากกว่า

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงโอกาสของไทยกรณีที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แบบไม่มีข้อตกลง ข้อตกลง (No-deal Brexit) ว่า การส่งออกของไทยจะได้รับผลดี หากจบลงแบบ No-deal Brexit เพราะสหราชอาณาจักรจะยกเว้นภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าในสินค้า 87% ของรายการสินค้าทั้งหมด แต่มีการเก็บภาษีนำเข้าในสินค้าที่มีความอ่อนไหวอีก 26 กลุ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ (เนื้อ แกะ หมู และสัตว์ปีก) และผลิตภัณฑ์นม เนย ชีส ข้าว รถยนต์ สิ่งทอ เซรามิก เอทานอล กล้วย น้ำตาล และสินค้าประมงบางชนิด เป็นต้น

- Advertisement -

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากสินค้า 20 รายการแรกที่ไทยส่งออกไปสหราชอาณาจักร พบว่า ผลกระทบจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 สินค้าที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีนำเข้า จากเดิมเคยถูกเก็บภาษีนำเข้าไปยังอียู มูลค่า 962.59 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 23.90% ของการส่งออกทั้งหมดของไทยไปสหราชอาณาจักร เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องเพชรพลอย เครื่องปรับอากาศ ส่วนประกอบของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ เครื่องสูบลมหรือสูบสุญญากาศ เครื่องอัดลมและเครื่องระบายอากาศ บรรจุภัณฑ์ที่ทำด้วยพลาสติก ยางรถยนต์ วงจรพิมพ์ แว่นตา ของปรุงแต่งชนิดที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ และอุปกรณ์สำหรับควบคุมระบบไฟฟ้า

กลุ่มที่ 2 สินค้าที่มีโอกาสผลักดันการส่งออก แม้ว่ายังคงอัตราภาษีนำเข้าในอัตราใกล้เคียงกับอียู และอยู่ภายใต้ระบบโควตาภาษี ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าอ่อนไหวของสหราชอาณาจักร มูลค่า 1,282.74 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 31.86% เช่น เนื้อสัตว์ (ไก่แปรรูปปรุงสุก) ยานพาหนะเพื่อการขนส่งสินค้า รถจักรยานยนต์ รถยนต์และยานยนต์เพื่อขนส่งบุคคล และข้าว

กลุ่มที่ 3 สินค้าที่ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากภาษีนำเข้าเป็น 0% อยู่แล้ว มูลค่า 238.91 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 5.93% เช่น แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องโทรศัพท์ รวมถึงเครื่องอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการส่งหรือการรับเสียง ภาพ หรือข้อมูลอื่นๆ

 “การยกเว้นภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปีของสหราชอาณาจักร จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าในกลุ่มแรก รวมทั้งเป็นโอกาสที่ภาคเอกชนไทยจะผลักดันให้เกิดการขยายการส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพของไทยไปยังสหราชอาณาจักรได้มากขึ้น”

“พาณิชย์” แนะส่งออกจับตาใกล้ชิด อาจกระทบย้ายฐาน

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า ผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของการส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรและอียู ควรติดตามสถานการณ์เบร็กซิตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุน และยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปสหราชอาณาจักร เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน กำลังซื้อของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรที่มีแนวโน้มลดลง ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและเศรษฐกิจโลก เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์เบร็กซิตอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งหาโอกาสเพื่อขับเคลื่อนการส่งออกของไทยต่อไป

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News