ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกโรงเตือนรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอาจพุ่งทะยานมากกว่าที่คาด หากเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์เร็วเกินไป
คำเตือนของซีดีซีครั้งนี้ มีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากที่ทางการออกมายืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่พุ่งทะยานทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนมากกว่า ทหารชาวอเมริกันที่เสียชีวิตในช่วงสงครามเวียดนาม เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐจนถึงวันอังคารที่ 28 เมษายน ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งล้านคนนี้ เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัวภายในเวลาเพียงแค่ 15 วัน และขณะนี้ก็มีคนเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ในสหรัฐไปแล้วกว่า 58,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 2,000 คนในเดือนเมษายน
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้สหรัฐฯ ในขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับห้าของโลก แต่ในแง่ตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว สหรัฐมาเป็นอันดับหนึ่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 74,000 ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้
ซีดีซี เตือนว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสาธารณชนในการปฎิบัตตนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดการสัมผัสอย่างใกล้ชิดอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการแพร่ระบาดกลับมีความเป็นไปได้ที่จะรุนแรงขึ้น เมื่ออย่างน้อย 10 รัฐในสหรัฐฯ กำลังเตรียมหรือเริ่มผ่อนคลายมาตรการที่ขอให้ผู้คนอยู่กับบ้านและกลับไปเปิดธุรกิจบางส่วนแล้ว ท่ามกลางเสียงเตือนและเสียงคัดค้านจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่ระบุว่า การเปิดธุรกิจเร็วเกินไปจะทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดได้อีก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขยอมรับว่า ปัญหาการควบคุมการแพร่ระบาดของสหรัฐฯ ในขณะนี้ ก็คือการตรวจหาเชื้อที่ยังทำได้ไม่ทั่วถึงและเพียงพอ อุปกรณ์การตรวจที่ยังไม่พร้อม รวมทั้งการขาดแคนบุคลากรที่จะติดตามหาผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางทำเนียบขาวได้ออกแนวทางปฎิบัติสำหรับการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ โดยระบุว่า รัฐต่าง ๆ ยังไม่ควรเริ่มกลับมาเปิดธุรกิจจนกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงอย่างน้อย 14 วันติดต่อกัน และโรงพยาบาลในรัฐมีความพร้อมพอที่จะรับผู้ป่วยได้ รวมถึงต้องแน่ใจว่ามีขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้ออย่างเพียงพอ และสามารถติดตามผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ภาคธุรกิจในการโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หลังภาคธุรกิจและโรงงานส่วนหนึ่งที่กลับมาดำเนินการแสดงความกังวลวว่า อาจโดนคนงานฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหากกลับมาดำเนินการแล้วเป็นผลให้พนักงานติดเชื้อโควิด-19
ที่มา DailyMail, Reuters
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ท็อปเท็น มหาเศรษฐีใจบุญ บริจาคเงินสู้โควิด-19