บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ประกาศเมื่อวันพุธนี้ว่าได้เริ่มทำการทดสอบทางคลินิกของวัคซีนโควิด-19 แบบโดสเดียวกับผู้รับวัคซีนจำนวน 60,000 คนจาก 3 ทวีป ซึ่งจอห์นสันแอนด์จอห์นสันถือเป็นบริษัทรายที่สี่ที่ทำการทดสอบวัคซีนขั้นสุดท้ายในสหรัฐอเมริกา
จอห์นสันแอนด์จอห์นสันระบุว่าบริษัทจะสามารถศึกษาผลลัพธ์ที่สำคัญจากการทดสอบได้ภายในต้นปีหน้า และหากผลที่ได้เป็นบวกรัฐบาลจะดำเนินการอนุมัติให้มีการใช้วัคซีนดังกล่าวในกรณีฉุกเฉินได้ต่อไป บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันตั้งเป้าว่าจะรับอาสาสมัครทดสอบวัคซีนทั้งในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ รวมถึงบราซิลและแอฟริกาใต้
การทดสอบวัคซีนในครั้งนี้เป็นการทดสอบหลังจากการศึกษาที่แสดงผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ และจะทดสอบต่อไปว่าวัคซีนแบบโดสเดียวจะสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ โดยการทดสอบครั้งนี้ต้องใช้เงินทุนถึง 480 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) และกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ (Department of Health and Human Services)
ในการทดสอบวัคซีนขั้นที่สามซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย ผู้รับวัคซีนส่วนหนึ่งจะได้รับวัคซีนจริง และอีกส่วนหนึ่งจะได้รับวัคซีนหลอก จากนั้นจะมีการติดตามผลว่าอาการของโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้รับวัคซีนจริงมีอัตราลดน้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจริงหรือไม่
วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันพัฒนาขึ้นมากจากไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนลง (viral vector) จากไวรัสอะดีโนดัดแปลงที่ทำให้เกิดโรคหวัด ซึ่งไวรัสดังกล่าวจะส่งคำสั่งทางพันธุกรรมสอนให้ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์สร้างเกราะป้องกันโคโรนาไวรัส
บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ลงนามในสัญญามูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์กับรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อจะจัดจำหน่ายวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสในสหรัฐฯ หากการทดสอบวัคซีนเป็นผลสำเร็จและได้รับอนุมัติให้ใช้งานได้ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันคาดว่าจะผลิตวัคซีนมากกว่า 1 พันล้านโดสสำหรับทั่วโลกได้ในปี 2564