จากกรณีที่ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ ถึงการประกาศกำหนดให้วันที่ 8-10 ก.ค. 2563 เป็น วันหยุดชดเชยสงกรานต์ ว่ากรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการแจงว่ายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่อง วันหยุดชดเชยสงกรานต์ ว่าจะเป็นวันใดต้องรอให้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) สรุปมติและประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ วันหยุดยาว ของเดือน ก.ค. 2563 โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2563 ซึ่งเป็น วันอาสาฬหบูชา, วันที่ 5 ก.ค. 2563 เป็นวันเข้าพรรษา และ วันที่ 6 ก.ค. 2563 เป็นวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหบูชา จึงเป็นที่มาของกระแสข่าวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นวันที่ 28 ติดต่อกัน (นับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.-22 มิ.ย. 2563) จึงต้องติดตามวาระการประชุมของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (23 มิ.ย. 2563) ว่าจะมีการเสนอวาระดังกล่าวเพื่อพิจารณาในที่ประชุมหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการ ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 และทยอยคลายล็อกดาวน์กิจการ/กิจกรรม ต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ข้อมูลล่าสุด นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 ว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังไม่ได้ข้อสรุปวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่ผ่านมา จากเดิมที่จะหยุดติดต่อกัน 3 วัน ในเดือน ก.ค. โดยอาจจะพิจารณาทยอยให้วันหยุดทีละวันให้ติดกับวันหยุดของแต่ละเดือน จนครบ 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้หยุดยาวทีเดียวพร้อมกัน 6 วัน ซึ่งเป็นการแบ่งวันหยุดที่ยืมจากประชาชนมาใช้คืนให้ โดยยังมีเวลาถึงเดือน ธ.ค. เช่น หากเดือนถัดไปมีวันหยุดยาว 3 วัน ก็อาจจะพิจารณานำวันหยุดสงกรานต์มาเพิ่มให้อีก 1 วัน รวมเป็น 4 วัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คนไทยไปไหน … หลังผ่อนคลายมาตรการหยุดเชื่อเพื่อชาติ
