ดร. แอนโธนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวต่อ องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าสหรัฐยังคงยืนยันเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกต่อไปและมีเจตนารมณ์ที่จะเข้าร่วมโครงการ COVAX facility เสาหลักแห่งการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปยังประเทศยากจน
นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ได้กล่าวต้อนรับคำประกาศดังกล่าวต่อหน้าคณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลกว่า “วันนี้ถือเป็นวันดีสำหรับองค์การอนามัยโลก และเป็นวันดีสำหรับการสาธารณสุขของโลก องค์การอนามัยโลกเป็นเสมือนครอบครัวของนานาชาติ และพวกเราทุกคนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สหรัฐอเมริกาจะยังคงอยู่กับครอบครัวของเราต่อไป”
อ่าน : WHO คาด ยอดผู้ป่วย โควิด-19 ทั่วโลกจะแตะ 100 ล้านราย สิ้นเดือนมกราคมนี้
ดร. เฟาซี ได้กล่าวคำประกาศทางการประชุมผ่านวิดีโอหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งได้หนึ่งวัน โดยระบุว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเร่งออกกำหนดแนวทางการดำเนินงานซึ่งรวมถึงเจตนารมณ์ของสหรัฐ ในการเข้าร่วมโครงการ COVAX และสนับสนุนโครงการ ACT Accelerator ซึ่งเป็นโครงการความพยายามระดับพหุภาคีเพื่อเร่งการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ยา และชุดตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างทั่วถึงทั่วโลก
สหรัฐจะยังคงดำรงสมาชิกภาพขององค์การอนามัยโลก และพร้อมทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกอีก 193 ประเทศ ในการปฏิรูปหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งจะส่งเงินสนับสนุนสำหรับโครงการช่วยเหลือและแจกจ่ายวัคซีนให้กับประเทศยากจนต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้ระงับการส่งเงินสนับสนุนของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก และยังได้ประกาศว่าจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกคาดว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชุดแรกภายใต้โครงการ COVAX ที่องค์การอนามัยโลกร่วมมือกับ GAVI Vaccine Alliance จะจัดส่งถึงประเทศยากจนภายในเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าประเทศที่ร่ำรวยต่างพยายามสั่งจองวัคซีนกันอย่างล้นหลาม