นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประสิทธิภาพของ วัคซีนโควิด-19 ว่า ถ้าดูจากข่าววัคซีนแต่ละยี่ห้อจะมีประสิทธิภาพที่มากบ้าง น้อยบ้าง โดยทางการแพทย์บอกแล้วว่า แต่ละชนิดมันไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ส่วนใหญ่ยังเห็นว่าเป็นทิศทางในทางที่ดีอยู่และบรรดาแพทย์ก็ยังมีความมั่นใจว่า ควรจะต้องมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด โดยเมื่อวัคซีนเข้ามาแล้ว จะขอฉีดเป็นคนแรกเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ อย่างที่เคยยืนยันมาก่อนหน้านี้
ต่อให้มีประสิทธิผลเพียง 50 – 70% ก็ตาม แต่ทุกวัคซีนไม่ทำให้โรคนี้พัฒนาไปจนการหนัก ซึ่งหมายถึงถ้าป่วยจะไม่ป่วยหนักมาก และไม่พัฒนาไปถึงขึ้นเกิดการเสียชีวิตได้ ถ้าได้รับวัคซีนแล้วอาจจทำให้โรคเบาลงได้ และเชื่อมั่นว่าอนาคตจะต้องมีการพัฒนาไปมากกว่านี้ ผู้ที่ได้รับวัคซีนน่าจะมีประสิทธิผลที่มากขึ้น ส่วนผลข้างเคียง ยังตอบไม่ได้ จึงได้ตั้งคณะอนุกรรมการ มี นายแพทย์โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน คณะอนุกรรมการดำเนินการบริหารวัคซีน พร้อมจัดลำดับความสำคัญในการรับวัคซีนของแต่ละกลุ่ม
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย นาย อนุทิน กล่าวว่า ยังมีการตรวจคัดกรองที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจากการติดเชื้อก็ทราบต้นตอและที่มาจากการสอบสวน สามารถค้นหาและติดตามได้ทั้งหมด และขณะนี้มีความพร้อมในการตั้งโรงพยาบาลสนาม ขอให้ประชาชนมั่นใจและช่วยกันระมัดระวังไม่ให้ตนเองนั้นติดเชื้อ และขอฝากไปถึงแรงงาน ขอความร่วมมือให้แจ้งเพื่อนๆ ว่าอย่าลักลอบเข้าประเทศ แต่ขอให้เดินทางเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย เพื่อช่วยกันควบคุมโรคโควิด-19