รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าอินโดนีเซียจะเริ่มโครงการฉีด วัคซีนโควิด-19 ในวันที่ 13 ม.ค. โดยจะเริ่มจากกรุงจาการ์ตา และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด จะได้รับการฉีดเป็นคนแรก
ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะเริ่มฉีดวัคซีนในวันต่อๆ ไป ก่อนหน้านี้รัฐบาลระบุว่าบุคลากรด่านหน้า 1.3 ล้านคนจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ฉีดวัคซีน CoronaVac ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จากจีน
รัฐมนตรีสาธารณสุขระบุว่า หลังจากฉีดให้บุคลากรด่านหน้าแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดควรเข้ารับวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
ต่อจากนั้น อินโดนีเซียมีแผนฉีดให้คนวัยทำงานก่อน แทนที่จะฉีดให้คนสูงวัยเหมือนในหลายประเทศ เพราะต้องการฟื้นเศรษฐกิจ
สำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซีย เพิ่งอนุมัติวัคซีนของซิโนแวค นับเป็นประเทศแรก นอกเหนือจากจีน ที่อนุมัติวัคซีนดังกล่าวสำหรับใช้ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน โดยระบุว่าข้อมูลจากการทดลองพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 65.3%
เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยว่า นอกจากซิโนแวคแล้วยังจัดหาวัคซีนจากบริษัทต่างๆ มาเกือบ 330 ล้านโดส เพื่อฉีดให้แก่ประชาชน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 15 เดือนกว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เมื่อประชากร 2 ใน 3 ได้รับวัคซีนแล้ว
ในส่วนโครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอล ซึ่งฉีดต่อจำนวนประชากรไปได้รวดเร็วที่สุดในโลก เริ่มการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว หลังจากฉีดเข็มแรกให้แก่ผู้อายุมากกว่า 60 ปี ผู้มีปัญหาสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ ไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ปีที่แล้ว
กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประชากร 19.5% ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว และคาดว่าภายในกลางเดือนมี.ค. ประชากร 5 ล้านคนจากทั้งหมด 9 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ดำเนินการฉีดวัคซีน อิสราเอลก็เข้มงวดมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาด หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าการที่ประชาชนมั่นใจมากไปว่ามีวัคซีนแล้ว อาจนำไปสู่ความหละหลวมหรือย่อหย่อนเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังต่างๆ และทำให้มีการติดเชื้อรอบใหม่
ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้รวดเร็วเป็นอันดับ 2 รองจากอิสราเอล คือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ฉีดวัคซีนประชากรไปแล้ว 10% ตามด้วยบาห์เรน 5% และสหรัฐ 2%