เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2562 จีนรายงานองค์การอนามัยโลกว่ามีผู้ป่วยจากไวรัสลึกลับ 27 คนในเมือง อู่ฮั่น จากนั้นวันที่ 11 ม.ค. 2563 ก็รายงานว่าชายวัย 61 ปี เสียชีวิตจากปอดบวมในการระบาดที่ยังไม่ทราบว่าเป็นไวรัสชนิดใด โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านมา 1 ปี ทั่วทั้งโลกได้รู้จักกับ “โควิด-19” ซึ่งเป็นโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่นับถึงขณะนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1.9 ล้านราย และยังระบาดอยู่อย่างหนักในหลายประเทศ
ขณะที่วิถีชีวิตในเมืองอู่ฮั่น ค่อยๆ คืนชีพอีกครั้งและปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้คนเดินทางไปทำงาน เดินเล่นในสวนสาธารณะ และเดินชมความงามเลียบฝั่งแม่น้ำ แม้ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ก็ตาม
ในตอนแรก จีนเผชิญการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ กรณีการรับมือไวรัสนี้ แต่ 2 สัปดาห์หลังจากยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรก ทางการเมืองอู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียงก็สั่งล็อกดาวน์และระงับบริการขนส่งสาธารณะทันที จากนั้นในเดือนเม.ย.ก็ได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
มาในวันนี้ จีนเพิ่งรายงานผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 5 เดือน โดยเฉพาะในมณฑลเหอเป่ย ที่ระดับ 105 คน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวนับว่าห่างไกลกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสหรัฐ อังกฤษ และอีกหลายประเทศที่เผชิญการระบาดหลายระลอก
หากนับเป็นภูมิภาค ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกที่มีผู้ติดเชื้อทะลุหลัก 25 ล้านคน ตามด้วยอเมริกาเหนือ 22.4 ล้านคน และลาตินอเมริกา 16.3 ล้านคน
อังกฤษเป็นประเทศในยุโรปที่เผชิญการระบาดมากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อผ่านหลัก 3 ล้านคนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่สหรัฐ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลกกว่า 22 ล้านคน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 รายในวันเดียว
ในส่วนของทวีปเอเชียนั้น อินเดียมียอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 10.43 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตทะลุหลัก 150,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นประเทศที่ 3 ที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 150,000 ราย
แม้บางประเทศ อย่างสหรัฐ สิงคโปร์ อังกฤษ เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ประธานเครือข่ายตอบโต้และเตือนภัยการระบาดระดับโลก ประจำองค์การอนามัยโลก ระบุว่าภาพรวมของสถานการณ์ทั่วโลก คงไม่กลับสู่ภาวะปกติเร็วนัก