บริษัท เอ็นทีที จำกัด (NTT Ltd.) ประกาศก้าวสู่การเป็น “Business Avenger” โดยมุ่งมั่นในการประสานความร่วมมือ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 17 ด้าน ในการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับนานาชาติ(Global Goals) ที่จัดทำขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ ภายในปี 2030
-NTT จับมือพันธมิตรบริจาค 2 ล้านบาท สมทบกองทุน “ศิริราชสู้ภัยโควิด”
ร่วมมือกับองค์กรยักษ์ใหญ่อีก 16 บริษัท ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายแห่งความสำเร็จในระดับโลก เช่น Coca Cola, Avanti, Google, Diageo, Microsoft และ Nike โดย NTT Ltd. ได้รับเลือกเพื่อเป็นตัวแทนในการสร้าง “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน” (Sustainable Cities and Communities) ให้บรรลุสู่เป้าหมายร่วมกัน
The Global Goals การพัฒนาที่ยั่งยืนถือเป็นเป้าหมายระดับโลก ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2015 เป็นการเรียกร้องให้ทั่วโลกดำเนินการเพื่อขจัดความยากจน ปกป้องโลก และสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับความสงบสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง ภายในปี 2030 ซึ่งขณะนี้เราอยู่ใน “ทศวรรษแห่งการส่งมอบ” (Decade of Delivery)
โดย NTT Ltd. ได้เข้าร่วมกับธุรกิจชั้นนำในระดับโลก, นักการเมือง, พลเมือง และสมาชิกของภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและมุ่งมั่นที่จะเร่งความก้าวหน้าก่อนที่จะถึง “วันแห่งการปฏิบัติการสากล” (Global Day of Action) ในเดือนกันยายน 2020 ที่ผู้นำระดับโลกจะรายงานขั้นตอนการดำเนินการเพื่อสร้างความยั่งยืน ความเจริญรุ่งเรือง ความเสมอภาค และโอกาสสำหรับทุกคน
Jason Goodall, Global Chief Executive Officer ของ NTT Ltd. กล่าวว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของเราในการทำให้เราเชื่อมโยงสู่อนาคต ซึ่งปี 2020 เป็นปีแห่งการปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งในองค์กรธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม
และโลกของเรากำลังต้องการโซลูชั่นที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เพื่อรับมือกับการระบาดของ COVID-19 ไปจนถึงวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการช่วยให้ทุกชีวิตบนโลกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และนั่นเป็นเหตุผลที่เราภูมิใจที่เราได้รับการยอมรับให้ก้าวสู่การเป็น “Business Avenger” เพื่อสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืนไปยังทั่วโลก
Jon Hales, Business and Climate Director ของ Project Everyone ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่า เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในระดับโลกนี้ได้หากขาดการสนับสนุนจากหลายองค์กรธุรกิจ ผ่านธุรกิจหลักของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นพันธกิจทางด้านการเงิน เครือข่ายพนักงาน และผู้มีอิทธิพลในระดับสูง ยกตัวอย่างเช่น บริษัท NTT Ltd. จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการและความคืบหน้าในการเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยี
ซึ่งเราเชื่อว่าเป้าหมายเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับความสำเร็จในอนาคต และสร้างความเจริญรุ่งเรืองขององค์กรและธุรกิจทั่วโลก และเมื่อมีสุขภาพที่ดีขึ้น โลกมีความสงบสุข และความเฟื่องฟูกลับมาอีกครั้ง และนั่นจะมีความสำคัญต่อพวกเราทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก ซึ่งทุกองค์กรและทุกคนสามารถมีบทบาทในการบรรลุถึงเป้าหมายในอนาคตดังที่ได้กล่าวมานี้ และเราขอปรบมือให้กับบริษัททั้ง 17 บริษัท ที่มุ่งมั่นและร่วมมือเพื่อช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายไปด้วยกัน”
NTT Ltd. พร้อมเดินเคียงข้างไปกับลูกค้า โดยมองหาวิธีที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยลดผลกระทบของการหยุดชะงัก ทั้งในเมืองและชุมชนทั่วโลก จากช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้:
-ระบบคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถติดต่อกับคนที่คุณรัก – โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลด้านวิชาการใน สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ซึ่งเรากำลังช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 ที่ถูกกักตัว ให้พวกเขาสามารถติดต่อกับครอบครัวและแพทย์ได้อย่างปลอดภัย โดยการพูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์บนคลาวด์
-ผสานการทำงานของเครื่องมือ เพื่อเปลี่ยนอนาคตให้กับนักเรียนแอฟริกัน – เราได้รวมกลุ่มโรงเรียนมัธยมปลายในแอฟริกาใต้ เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถติดตามงานด้านวิชาการของพวกเขา และเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในระหว่างช่วงเวลาล็อคดาวน์ โดยใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันของ Microsoft
-การรวมเป็นหนึ่งทางดิจิทัล ช่วยให้เราสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิผลในช่วงวิกฤตื – เราได้เข้าร่วมโครงการ “digital solidarity” ในยุโรป โดยเรากำลังช่วยเหลือประชาชน ผู้เชี่ยวชาญและบริษัทต่างๆ ให้ตื่นตัวอยู่เสมอ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล โดยการสร้างแพลตฟอร์มการประชุมผ่านวิดีโอ หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ให้บริการฟรี
-ความต่อเนื่องในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทำได้ผ่านweb – เราร่วมกับองค์กรที่ให้บริการด้านการเงินของสหรัฐอเมริกา โดยเราช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้จัดการพอร์ตการลงทุนกับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายผ่านเว็บคาสต์ (webcasts) อย่างต่อเนื่อง
-Wearables ยกระดับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติเป็นสากล – ด้วยความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่ม เราได้อำนวยความสะดวกในการให้คำปรึกษาและฝึกอบรมพนักงานโรงงานในเอเชียแปซิฟิกโดยผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทในยุโรปผ่านเทคโนโลยีบน Wearable ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์ที่สวมใส่ติดตัว