สายการบิน เดลต้า แอร์ไลน์ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีทีผ่านมาว่าสายการบินจะให้ความร่วมมือในการติดตามสถานการณ์ติดเชื้อโคโรนาไวรัสของรัฐบาลกลาง โดยจะเป็นสายการบินแรกที่จะจัดเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ ภายหลังจากที่สายการบินหลายแห่งออกมาคัดค้านข้อเรียกร้องความร่วมมือดังกล่าวจากภาครัฐ
ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป สายการบินเดลต้าจะขอให้ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาสมัครใจเปิดเผยข้อมูล ชื่อ อีเมล ที่อยู่ปลายทาง และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งสายการบินจะส่งต่อให้กับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคต่อไป
บิล เลนทช์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลลูกค้าของสายการบินเดลต้า ชี้แจงว่าสายการบินต้องการให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยเมื่อมีโอกาสได้กลับมาเดินทางอีกครั้ง และโครงการสมัครใจแจ้งข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวนับเป็นอีกวิธีที่สายการบินจะสามารถสร้างความมั่นใจให้ทั้งลูกค้าและพนักงานไปได้พร้อม ๆ กัน
รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาได้มีการกดดันให้สายการบินเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารมาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากคำนึงถึงความสำคัญในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงต่าง ๆ แต่อุตสาหกรรมการบินก็ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวมาโดยตลอด โดยให้เหตุผลว่าการดำเนินการดังกล่าวมีต้นทุนสูงและเสียเวลา ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสายการบินหลายแห่งยังได้ขัดขวางความพยายามของรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขอให้สายการบินเก็บข้อมูลจากผู้โดยสาร แม้ว่าสภาคองเกรสจะออกเงินสนับสนุนถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับสายการบินก็ตาม ทางด้านสายการบินเสนอให้มีการสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถกรอกข้อมูลส่งให้กับรัฐบาลโดยตรง แต่ท้ายที่สุดการเจรจาดังกล่าวก็ไม่เป็นผล
ในช่วงแรกที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 สหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่ราย และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับการป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเข้ามาในประเทศ แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อนับล้านคนในสหรัฐ หลายฝ่ายจึงมองว่าการเรียกร้องและการร่วมมือในการจัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสารเฉพาะที่เดินทางจากต่างประเทศมายังสหรัฐอเมริกาจากสายการบินเพียงรายเดียวจะมีประโยชน์ในการติดตามและช่วยป้องกันการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสได้มากน้อยเพียงใด