RedDoorz สตาร์ทอัพพัฒนาแพลทฟอร์มจองโรงแรมระดับ 2 ดาว 3 ดาว และโรงแรมราคาถูกสัญชาติสิงคโปร์ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายในอาเซียน
สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งมาได้ 4 ปีแห่งนี้ อาจเล็กกระจ้อยร่อยเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่โตเร็วอย่าง Oyo แห่งอินเดีย ที่ได้แบคทุนหนาอย่าง SoftBank จากญี่ปุ่น
แต่ RedDoorz ก็ยึดที่มั่นไว้ได้อย่างแน่นหนา แถมดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนอย่าง Rakuten Capital ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการลงทุนของผู้นำอีคอมเมิร์ซแห่งญี่ปุ่น และ Mirae Asset-Naver Asia Growth Fund ซึ่งเป็นการร่วมทุนของ Mirae Financial Group กับ Naver แห่งเกาหลีใต้ โดยสามารถระดมทุนระลอกล่าสุดได้ 70 ล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 5 เดือนหลังจากเพิ่งระดมทุนระลอกสองได้ 45 ล้านดอลลาร์
ทุนก้อนใหม่เหล่านี้น่าจะช่วยให้ RedDoorz รับมือได้กับ Oyo ซึ่งกำลังขยายตัวรุกเข้าไปในตลาดใหม่ๆ อย่างหนัก รวมถึงเอเชียอาคเนย์ โดยปัจจุบัน Oyo มีการดำเนินงานในกว่า 80 ประเทศ
แม้ Oyo รุกหนักมาก แต่ Amit Saberwal ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ RedDoorz มองว่าความสำเร็จของ Oyo สะท้อนว่ายังมีช่องว่างสำหรับผู้เล่นอีกมากหน้าหลายตา ในตลาดการเดินทางที่ใช้บริการออนไลน์ในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตจนมีมูลค่าถึง 78,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568
ไม้เด็ดที่เขาใช้เจาะตลาด คือการสร้างความตระหนักรู้และความภักดีกับแบรนด์ โดยเขาบอกว่านักเดินทางท้องถิ่นนิยมเดินทางแบบครั้งละ 2-3 วันมากขึ้น ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่นักเดินทางเหล่านี้จะกลับมาใช้บริการของโรงแรมในเครือข่าย
นอกจากนั้น แทนที่จะแค่แท็กโรงแรมให้มาอยู่บนแพลทฟอร์ม บริษัทได้จัดทำบริการครบวงจร ทั้งการตลาด ส่งเสริมการขาย และให้การฝึกสอน เพื่อปรับปรุงคุณภาพของการท่องเที่ยวแบบประหยัด แต่หากโรงแรมไหนทำการตลาดได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากบริษัท โดย RedDoorz จับมือกับโรงแรมต่างๆ เพื่อให้การฝึกหัดพนักงานและปรับปรุงบริการรวมถึงเครื่องอำนวยความสะดวกให้ได้เกณฑ์ระดับหนึ่ง ก่อนรีแบรนด์โรงแรมเหล่านี้และนำมาทำการตลาดบนแพลทฟอร์มของบริษัท เพื่อสร้างมาตรฐานที่นักเดินทางสามารถคาดหวังได้จากห้องพักของ RedDoorz ไม่ว่าจะเข้าพักที่ไหนก็ตาม
บริษัทยังเล็งที่จะเพิ่มบริการอื่นเข้าไปในห้องพัก อย่างสตรีมมิงภาพยนตร์ ประตูแบบเช็คอินด้วยตนเอง และตู้กดอัตโนมัติ
ปัจจุบัน RedDoorz มีโรงแรมในเครือข่าย 1,400 แห่ง และตั้งเป้าให้ได้ถึง 2,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทมีระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถคาดหมายอุปสงค์ หรือความต้องการห้องพักตามจุดต่างๆ และจะหาห้องพักเข้ามาเพิ่มบนแพลทฟอร์มจนกว่าจะรองรับอุปสงค์ได้เพียงพอ
สตาร์ทอัพแห่งนี้มีการดำเนินงานใน 80 เมืองของอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยวางแผนนำเงินทุนก้อนใหม่ไปใช้ขยายเครือข่ายใน 4 ตลาดข้างต้น
Saberwal เอง มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมบริการมากมาย เพราะเคยทำงานกับโรงแรมและรีสอร์ทในอินเดีย ก่อนไปเป็นผู้บริหารยักษ์ใหญ่ออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว “MakeMyTrip” ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจที่สตาร์ทอัพแห่งนี้จะก้าวไปดำเนินงานโรงแรมด้วย
Saberwal ยังมั่นใจว่าในเวลาไม่ไกล RedDoorz จะก้าวขึ้นเป็น “ยูนิคอร์น” ด้านไฮเทครายล่าสุดของเอเชียอาคเนย์
