เศรษฐกิจของอินเดียที่ขยายตัวต่ำกว่าการคาดหมาย อาจสร้างความวิตกแก่หลายฝ่าย แต่ไม่น่ารวมถึงบรรดาสตาร์ทอัพ ที่มีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถเดินหน้าจ้างพนักงานได้แบบไม่สะทกสะท้าน
อย่างรายของ Vogo สตาร์ทอัพให้เช่าจักรยาน ที่เล็งจะจ้างพนักงานเพิ่มอีกเท่าตัวภายในปลายปีหน้า โดยไม่หวั่นไหวกับการบริโภคที่ชะลอตัวในประเทศ ซึ่งกระทบต่อบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
ซีอีโอของ Vogo อยากขยายทีมงานให้ถึงพันคนภายในปลายปีหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 400 ชีวิต ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่น่าแปลกใจ เพราะพนักงานของสตาร์ทอัพรายนี้พุ่งขึ้น 20 เท่าในช่วงเวลาเพียง 12 เดือน
ซีอีโอผู้มีวิสัยทัศน์วางแผนจะลงทุนด้านบุคลากร และการชะลอตัวของเศรษฐกิจก็ไม่ได้กระทบต่อสตาร์ทอัพมากมายนัก เพราะบรรดาสตาร์ทอัพมีแผนการและเงินทุนสำรองไว้นาน 5-10 ปีอยู่แล้ว
Vogo ไม่ได้เป็นสตาร์ทอัพแห่งเดียวที่รับพนักงานเยอะแยะมากมาย เพราะเงินทุนที่หลั่งไหลเข้าบรรดาสตาร์ทอัพ น่าจะทำให้ธุรกิจเหล่านี้เดินหน้าต่อไปได้อย่างปกติในสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว
LinkedIn เปิดเผยว่าสตาร์ทอัพชั้นนำ 25 แห่งของอินเดีย สร้างงานใหม่รวมกันประมาณ 18,000 ตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะมีการสร้างงานใหม่อีกมากกว่า 19,000 ตำแหน่งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
สตาร์ทอัพที่มีการรับพนักงานใหม่มากที่สุด คือสตาร์ทอัพจองที่พัก Oyo, สตาร์ทอัพดูแลสุขภาพและฟิตเนส Cure.Fit และแพลทฟอร์มที่ปรึกษาออนไลน์ TapChief โดยเกือบครึ่งหนึ่งของสตาร์ทอัพที่จ้างพนักงานใหม่นั้น อยู่ในเมืองบังคาลอร์
นักวิเคราะห์และบรรดาบริษัทสรรหาพนักงาน เปิดเผยว่าตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการรวมถึง full-stack developer ที่มีความรู้ทั้งในเรื่องของ front-end programming (โปรแกรมเมอร์ที่สร้าง user interface) และ back-end programming (ผู้วางระบบซอฟต์แวร์), นักการตลาดดิจิทัล, data scientist และนักพัฒนาฮาร์ดแวร์ IoT
บริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่งเปิดเผยว่าสตาร์ทอัพประมาณ 5,000 แห่งกำลังจ้างวิศวกรอาวุโสและตำแหน่งงานต่างๆ แบบเต็มเวลา โดยบรรดาสตาร์ทอัพเล็งที่จะรับพนักงานเพิ่มแห่งละ 3-4 คน และบางแห่งอาจรับ 10-20 คน โดยขณะนี้กำลังมีตำแหน่งงานว่าง 15,000-20,000 ตำแหน่ง
ผู้บริหารในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มองว่าในระยะสั้นถึงปานกลาง เทคโนโลยีสารสนเทศดูคึกคักมาก เพราะเป็นช่วงที่บริษัททั่วโลกมองหาโซชูชันให้เข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป จำนวนธุรกรรมออนไลน์ก็เพิ่มขึ้น ปริมาณข้อมูลมีมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งดีสำหรับบรรดาสตาร์ทอัพ ที่เฉลี่ยแล้วน่าจะรับคนเพิ่ม 4-5 ตำแหน่ง
บริษัทที่ปรึกษาอีกแห่งชี้ว่า มีความต้องการพนักงานที่มีความรู้ด้านเครือข่ายไร้สาย และการให้บริการด้าน Software ผ่านทางอินเตอร์เน็ต (SaaS) ในหมู่สตาร์ทอัพ โดยเฉพาะหลังจากระดมทุนรอบใหม่มาได้ ซึ่งสตาร์ทอัพในกลุ่ม SaaS มีอย่างน้อย 30-40 บริษัท ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายไร้สายมีประมาณ 15-20 แห่ง และส่วนใหญ่น่าจะรับคนเพิ่มอีกร้อยชีวิต
ดังนั้นสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายไร้สายและ SaaS น่าจะรับคนเพิ่ม 5,000-7,000 คน ขณะที่สตาร์ทอัพทั้งหมดของอินเดียน่าจะสร้างงานประมาณ 45,000-50,000 ตำแหน่ง เฉพาะในภาคไฮเทค ยังไม่รวมภาคอื่น