โดย:ภาคภูมิ วรรณแสง บรรณาธิการ Auto-Business Today



SUV พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมสมรรถนะความล้ำสมัยสมาร์ทปราดเปรียว ในรูปแบบของรถใช้งาน 7 ที่นั่งที่ใช้งานได้จริง ก่อนหน้านี้เราจะเห็นรถพลังงานไฟฟ้าในกลุ่มของรถพรีเมี่ยมนั้นมาในแบบของรถสมรรถนะสูง มีแรงม้าแรงบิดรวมถึงอัตราเร่งเทียบเคียงรถซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว แต่นั่นต้องแลกมาด้วยค่าตัวแพงลิบลิ่วและไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันนัก คราวนี้ถึงทีของรถพลังงานไฟฟ้าที่มีความพอเหมาะพอดีกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องสมรรถนะและราคา Mercedes-EQS SUV เปิดตัวด้วยกัน 3 รุ่นย่อย
EQS 450+ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ขับเคลื่อนมีกำลัง 256 กิโลวัตต์ ( ประมาณ 356 แรงม้า ) แรงบิด 568 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ความจุ 107.8 kWh ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งประมาณ 536-660 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด้วยไฟ DC สูงสุด 200 kW ระยะเวลาการชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 31 นาที
EQS 450 4MATIC รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ขับเคลื่อนมีกำลัง 256 กิโลวัตต์ ( ประมาณ 356 แรงม้า ) เท่ากัน แต่แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 800 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ความจุ 107.8 kWh ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งประมาณ 507-613 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด้วยไฟ DC สูงสุด 200 kW ระยะเวลาการชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 31 นาที
EQS 580 4MATIC รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ขับเคลื่อนมีกำลัง 400 กิโลวัตต์ ( ประมาณ 536 แรงม้า ) แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 858 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ความจุ 107.8 kWh ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งประมาณ 507-613 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด้วยไฟ DC สูงสุด 200 kW ระยะเวลาการชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 31 นาที





ตัวรถถูกพัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์ม EVA (Electric Vehicle Architecture) เช่นเดียวกับ EQS เวอร์ชั่นซีดาน มิติตัวรถ 1,959 x 5,125 x 1,718 มม. ( กว้าง x ยาว x สูง ) จุดเด่นคือระยะฐานล้อยาวถึง 3,210 มม. ทำให้สามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายห้องโดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง จุดเด่นภายในห้องโดยสารคือชุดหน้าจอแบบ MBUX HyperScreen มีความยาวราว 56 นิ้ว แบ่งหน้าจอที่เป็น 3 ส่วน ตรงผู้ขับขี่เป็นจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว จอกลางขนาด 17.7 นิ้ว ฝั่งผู้โดยสาร 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ยังเพิ่มความบันเทิงให้กับผู้โดยสารแถวที่สองด้วยจอแยกซ้าย – ขวา ขนาด 11.6 นิ้ว ให้อรรถรสด้านความบันเทิงด้วยชุดเครื่องเสียง Burmaster ระบบเสียงรอบทิศทางล่าสุด Dolby Atmos ซึ่งเป็นการปล่อยเสียงเสมือนจริงจากทุกทิศทาง



สิ่งหนึ่งที่ Mercedes-EQ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงคือ อรรถรสในการขับขี่เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ด้วยความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดจิตวิญญาณที่มีมาอย่างยาวนานมาสู่รถยนต์อนุกรมล่าสุด สมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ยังคงไว้ให้เหมือนรถยนต์สันดาปภายในที่ลูกค้าชื่นชอบมาอย่างยาวนาน จากที่เคยสัมผัส EQS ซีดานมาแล้วบอกได้เลยว่าถ้าไม่นับเรื่องเสียงอันเงียบสนิทหลังจากที่ได้ขับแล้ว การตอบสนองการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมพวงมาลัย การทรงตัว การตอบสนองของช่วงล่างและเบรกในทุกย่านความเร็วไม่ได้ต่างจากรถ Mercedes-Benz ที่คุ้นเคย ระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC Air Suspension เสริมด้วยระบบ Adaptive Damping System และโหมดการขับขี่ 4 โหมด Comfort, Sport, Eco และ Individual ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับค่าต่างๆ ได้ตามสไตล์การขับขี่ของตัวเอง เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบเลี้ยว 4 ล้อ ล้อคู่หลังทำมุมเลี้ยวได้ถึง 10 องศา ทำให้มีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.5 ม. เท่านั้น ในเรื่องของความปลอดภัยและระบบอำนวยสะดวกนั้นให้มาเทียบเท่ารุ่น EQS ซีดานที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้และเตรียมจะขึ้นไลน์การประกอบในไทยช่วงปลายปีนี้ ส่วน EQS SUV นั้นน่าจะตามมาในลำดับถัดไป
