สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) สำรวจเทรนด์และความคิดเห็นในกลุ่ม MAT CMO Council (สมาชิก ซีเอ็มโอ เคานซิล ของสมาคมการตลาดฯ) ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการตลาด และ คณาจารย์ในภาควิชาที่เกี่ยวข้อง ผลจากการสำรวจพบว่า ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะเริ่มคลี่คลายไปในทางบวก แต่ยังไม่สดใสมากนัก ส่วนมากยังมองการเติบโตทางเศรษฐกิจในมุมแคบๆแค่ +5% โดยนักการตลาดยังต้องเตรียมรับมือกับหลากหลายสถานการณ์ที่ยากจะคาดการณ์
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่เชื่อว่าจะมีผลโดยตรงกับการตลาด อันดับหนึ่งคือ เรื่องความต้องการของลูกค้า อันดับสองคือ เศรษฐกิจโลก และ อันดับสามคือ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งทั้ง 3 เป็นปัจจัยภายนอก องค์กรและนักการตลาดจึงควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆโดยไม่ประมาท นักการตลาดชั้นนำทั้งหลายของไทยมองว่า เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้ จะให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพ การทดลองแบรนด์ใหม่ๆ และการรู้ที่มาที่ไปของสินค้า เป็นอันดับต้นๆ

สำหรับหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในโลกการตลาดปี 2023 นี้ สรุปเป็นประเด็นได้ “4ร” คือ “เร็ว – รู้ – เรื่อง – รักษา”
1. เร็ว เพราะเราอยู่ในยุคที่ไม่มีอะไรแน่นอน การปรับเปลี่ยน ปรับปรุงอย่างทันท่วงที (Adaptability) จึงสำคัญมากสำหรับความสำเร็จ การทำงานต้องคล่องตัวมากขึ้น ทันเหตุการณ์มากขึ้น (Agile Marketing)
2. รู้ หมายถึงทั้งแง่การพัฒนาศักยภาพบุคลากร อัพสกิล – รีสกิล (Upskill & Reskill) ให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลง และในแง่การเรียนรู้ความต้องการของลูกค้าผ่านการเก็บข้อมูล นำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Data Driven Marketing)
3. เรื่อง คือการให้ความสำคัญกับเนื้อหาและบริบทของการสื่อสาร (Contextual Marketing & Content Marketing) เพื่อนำไปสู่การสื่อสารอย่างใส่ใจ โดนใจ แม่นยำ และ ใส่ใจในเรื่องความละเอียดอ่อนของการสื่อสารอีกด้วย (Communication Sensitivity)
4. รักษา คือ การทำธุรกิจอย่างใส่ใจ สร้างคุณค่าให้แก่โลกและสังคม (Sustainable Marketing)
ขณะที่การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า ต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ในปี 2023 โลกการตลาดจะตื่นตัวคึกคักขึ้น งบการตลาดจะเพิ่มสูงกว่าปี 2022 กว่า 5-10% โดยงบโฆษณาส่วนใหญ่ยังมุ่งไปในแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้ง ติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก ยูทูป เป็นต้น รายงานจากนีลเส็นระบุสื่ออินเทอร์เน็ตปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 23,315 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 11% ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาปี 2566 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท กระจายใน 3 สื่อหลักคือ ทีวี อินเตอร์เน็ต และ บิลบอร์ด