บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประกาศแผนระยะ 4 ปี (ปีงบประมาณ 2563-2566) โดยแผนปฏิรูปการดำเนินธุรกิจนี้ครอบคลุมถึงการจัดการต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ขององค์กรจากเดิมที่ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจมากจนเกินไป
ภายใต้แผนดังกล่าว นิสสันตัดสินใจที่จะปฏิรูปการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยลดธุรกิจที่ไม่ทำกำไรและโรงงานที่เกินความจำเป็นลง ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมลดต้นทุนคงที่ โดยพิจารณากำลังการผลิต รถยนต์รุ่นต่างๆ ที่จำหน่ายอยู่ทั่วโลก และรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายใต้การบริหารจัดการ อย่างมีระเบียบแบบแผน บริษัทมุ่งให้ความสำคัญและลงทุนในธุรกิจที่จะช่วยให้ฟื้นฟูองค์กรให้สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น
นิสสัน คาดการณ์ว่าการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทมีอัตรากำไรจากผลการดำเนินงานที่ 5% และมีสัดส่วนทางการตลาดทั่วโลกคิดเป็น 6% เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 ซึ่งรวมถึงสัดส่วนรายได้ที่มาจากการร่วมลงทุน 50% ในประเทศจีน
มาโคโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิสสัน กล่าวว่า แผนปฏิรูปของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคง แทนที่จะให้ความสำคัญต่อการเพิ่มยอดขายมากจนเกินไป โดย นิสสันจะมุ่งเน้นเรื่องความสามารถหลักขององค์กร พร้อมยกระดับคุณภาพทางธุรกิจ และรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน รวมถึงรายได้สุทธิต่อหน่วยเพื่อสร้างผลกำไรตามเป้าที่วางไว้ โดยทั้งหมดนี้จะมีการดำเนินงานควบคู่ไปกับการรื้อฟื้นวัฒนธรรม “ความเป็นนิสสัน” เพื่อเดินหน้าสู่ยุคใหม่ของนิสสัน
สำหรับแผนดังกล่าวอยู่บนกลยุทธ์ 2 ด้าน ได้แก่
1.กระบวนการทำให้เกิดประสิทธภาพ : แนวทางปฏิบัติเพื่อปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยแผนงานดังนี้
- ปรับอัตราการผลิตของนิสสันลง 20% ให้เหลือเพียง 5.4 ล้านคันต่อปี ภายใต้การปฏิบัติงานตามช่วงเวลาการทำงานตามมาตรฐานปกติ
- เพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตให้ได้มากกว่า 80% เพื่อเพิ่มผลกำไร
- ลดจำนวนรุ่นรถยนต์ทั่วโลกลง 20% (ให้เหลือเพียง 55 รุ่น จากเดิม 69 รุ่น)
- ลดต้นทุนแบบคงที่ลงประมาณ 3 แสนล้านเยน
- ยุติการดำเนินงานของโรงงาน ณ บาร์เซโลน่า ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก
- ควบรวมการผลิตของรถยนต์รุ่นสำคัญต่างๆ ในอเมริกาเหนือ
- ยุติการดำเนินงานของโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย และมุ่งให้ความสำคัญกับโรงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวในอาเซียน
- ร่วมมือบริษัทในกลุ่มพันธมิตรในการใช้ทรัพยากร เช่น การผลิต รุ่นรถยนต์ และเทคโนโลยีต่างๆ ร่วมกัน
2.การให้ความสำคัญกับตลาดหลักและรถยนต์รุ่นสำคัญ ด้วยแผนงานดังนี้
- มุ่งเน้นธุรกิจของนิสสันในประเทศญี่ปุ่น จีน และ ทวีปอเมริกาเหนือ
- ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตร เพื่อรักษาฐานทางธุรกิจของนิสสัน ในอเมริกาใต้ อาเซียน และยุโรป
- ยุติการการดำเนินงานในประเทศเกาหลีใต้ ยุติการดำเนินธุรกิจของดัทสันในรัสเซีย รวมถึงปรับแผนการดำเนินธุรกิจของบางประเทศในอาเซียน
- ให้ความสำคัญกับรถยนต์รุ่นหลักในกลุ่ม C และ D Segment รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถสปอร์ต
- เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ในอีก 18 เดือนข้างหน้า
- เพิ่มจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึง เทคโนโลยี อี–พาวเวอร์ โดยตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566
- ในประเทศญี่ปุ่น นิสสันจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่น และรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีอี–พาวเวอร์ จำนวน 4 รุ่น เพื่อเพิ่มสัดส่วนของยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 60% ของยอดขายทั้งหมด
- นำระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ProPILOT มาใช้ในรถยนต์มากกว่า 20 รุ่นที่วางขายใน 20 ประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์จำนวนกว่า 1.5 ล้านคัน ที่ใช้ระบบ ProPILOT ภายในสิ้นปี 2566
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นิสสัน ฟันธง 3 ปี อุตฯยานยนต์ฟื้นจากโควิด-19
นิสสันย้ำไทยผลิตเทคโนโลยี อี–พาวเวอร์ แห่งแรกในโลกนอกญี่ปุ่น