ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2563 โดย นายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์ ประธานกรรมการ เป็นประธานการประชุม ระบุว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้รับหนังสือลาออกจาก นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานกรรมการบริหาร เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้มีการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการใหม่เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ ให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการดำเนินงานซึ่งในการปรับโครงสร้างดังกล่าว นายเพชร โอสถานุเคราะห์ จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร
สำหรับตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ได้แต่งตั้งให้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หนึ่งในผู้บริหารรุ่นที่สี่ ของตระกูลโอสถานุเคราะห์ ขึ้นเป็นรักษาการ ซีอีโอ ทั้งนี้ นายธนา เป็นคณะกรรมการบริหารร่วมงานกับโอสถสภามานานกว่า 30 ปี เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ครอบคลุมในทุกธุรกิจของบริษัท เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์และใกล้ชิดกับพนักงานทุกระดับ
นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งให้ นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ เป็นรองประธานคณะกรรมการบริหารร่วมกับคณะกรรมการในชุดนี้ด้วย และ นายสลิล ปิ่นขยัน เป็นประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
สำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ยังคงนำทีมผู้บริหารมืออาชีพชุดเดิมซึ่งเป็นทีมที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากหลากหลายด้านจากธุรกิจทั้งในและต่างประเทศซึ่งได้ร่วมงานกับโอสถสภามากว่า 3 ปี
นายธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ตนรู้สึกขอบคุณคณะกรรมการบริษัททุกท่านที่ได้มอบความไว้วางใจนี้ให้ ตนจะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อให้โอสถสภาซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยที่มีอายุกว่า 129 ปีให้เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป
สำหรับการดำเนินงาน โอสถสภาโชว์ผลงานในไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิที่ 926 ล้านบาท เติบโต 4.2% จากเครื่องดื่มเอ็ม-150 เครื่องดื่มผสมวิตามินซี ซี–วิต และผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่าน ในเดือนมิถุนายน บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงานสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 55.6% และ ในไตรมาส 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังค์ชั่นนัลดริ้งค์ยังทำสถิติส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดตลอดกาลที่ 38.6% โดยเครื่องดื่มวิตามิน ซี ภายใต้แบรนด์ C Vitt สามารถทำยอดขายทะลุ 99 ล้านขวดจากการที่บริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตได้เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดภายใต้แบรนด์ Babimild Healthi Plus ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง โอสถสภาเดินหน้าพร้อมเปิดโรงงานเครื่องดื่มที่นิคมอุตสาหกรรมทิลาวา ประเทศเมียนมาร์ และมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายเครื่องดื่มซีวิดทั้งในประเทศและต่างประเทศในแถบภูมิภาคอีกด้วย
นอกจากนี้ Slimma เครื่องดื่มฟังคชั่นนอลดริ้งค์ใหม่ของโอสถสภาได้สร้างปรากฏการณ์ยอดขายเครื่องดื่มติด Top 5 ของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มในช่องทางออนไลน์ผ่าน Lazada และเตรียมขยายสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายในช่องทางอื่นเร็วๆนี้ ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวโอสถสภามีความมั่นใจ ว่าธุรกิจ ของโอสถสภาในครึ่งปีหลังจะเติบโตสอดคล้องตามเป้าหมายที่วางไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วิถี New Normal ดันพอร์ตโฟลิโอสินค้าเพื่อสุขภาพ โอสถสภา แจ้งเกิด