เจ้าหน้าที่สหรัฐปิดธนาคารซิลลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) ทำหุ้นธนาคารทั่วโลกปั่นป่วน หวั่นผลกระทบจากการละลายครั้งใหญ่สุดในภาคธนาคารสหรัฐนับแต่วิกฤติการเงินปี 2551
ทางการสหรัฐได้เข้ายึดทรัพย์สินของเอสวีบี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้หลักให้แก่บรรดาสตาร์ทอัพในสหรัฐมาตั้งแต่ทศวรรษ 80 หลังจากมีกระแสแห่ถอนเงินฝากจนทำให้ธนาคารขนาดกลางแห่งนี้ไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตนเอง และสถาบันให้ประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐได้เข้ามาดูแลแทน
เอสวีบีเน้นปล่อยกู้แก่บรรดาสตาร์ทอัพ และกลายเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับที่ 16 ของสหรัฐคำนวนจากสินทรัพย์ โดยนับถึงปลายปี 2565 ธนาคารมีสินทรัพย์ 209,000 ล้านดอลลาร์ และเงินฝากประมาณ 175,400 ล้านดอลลาร์
การล้มละลายของเอสวีบี หลังจากเพิ่มทุนไม่สำเร็จ นับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่สุดในภาคธนาคารตั้งแต่วอชิงตัน มูชวล เผชิญชะตากรรมเดียวกันเมื่อปี 2551
เจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกประชุมฉุกเฉินบรรดาผู้ดูแลกฎระเบียบภาคธนาคารหลังจากเอสวีบีต้องปิดตัวลง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่กับมาตรการของผู้ดูแลกฎระเบียบภาคธนาคาร และตั้งข้อสังเกตว่าระบบธนาคารยังมีความยืดหยุ่น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็มีเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการรับมือเหตุการณ์ทำนองนี้
สถาบันให้ประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ ระบุว่าสำนักงานใหญ่และสาขาทั้งหมดของเอสวีบีจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม และผู้ฝากเงินที่ได้รับการประกันเงินฝากทั้งหมด จะได้รับเงินที่ฝากไว้ไม่เกินไปจากวันจันทร์ แต่ข้อมูลของทางสถาบันระบุว่า 89% ของเงินฝาก ไม่ได้รับการประกัน
ขณะที่บริษัทอย่างผู้ผลิตวิดีโอเกม Roblox และผู้ผลิตอุปกรณ์สตรีมมิง Roku บอกว่ามีเงินฝากในเอสวีบีหลายร้อยล้านดอลลาร์ และส่วนใหญ่ไม่ได้รับการประกัน
สถาบันให้ประกันเงินฝากระบุว่าจะหาทางขายสินทรัพย์ของเอสวีบี รวมถึงนำเงินปันผลในอนาคต มาจ่ายให้ผู้ฝากเงินที่ไม่ได้รับการประกัน
การล่มสลายภายในเวลาอันรวดเร็วของเอสยูวี มีขึ้นหลังจากธนาคารประกาศเมื่อกลางสัปดาห์ว่าพยายามระดมทุนเพิ่มมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่สำเร็จ และมีแนวโน้มว่าอาจต้องขายกิจการ แต่กระบวนการขายก็เผชิญอุปสรรคจากกระแสเงินฝากที่ไหลออกอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนวิตกว่าธนาคารรายอื่นอาจเผชิญชะตากรรมใกล้เคียงกัน ขณะพยายามระดมทุนท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพราะธนาคารกลางเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อปรามเงินเฟ้อ