ยูนิลีเวอร์ ประกาศมาตรการและพันธกรณีเพื่อปรับปรุงโลกให้ดีขึ้น เปิด 5 โครงการ ฟื้นฟูภูมิทัศน์ โครงการปลูกป่า โครงการกักเก็บคาร์บอน โครงการอนุรัษ์น้ำ ขนแบรนด์ทัั้งหมดร่วมสร้างโลกสวย 10 ปีข้างหน้า
อลัน โจป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูนิลีเวอร์ โกลบอล อธิบายว่า “ขณะที่โลกกำลังรับมือกับความเสียหายที่เกิดจากโรคระบาด Covid-19 และต่อสู้กับปัญหาความไม่เท่าเทียมกันที่รุนแรง เราต้องไม่ลืมว่าวิกฤติสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นภัยคุกคามต่อพวกเราทุกคน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเสื่อมโทรมของธรรมชาติ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การขาดแคลนน้ำ ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน และเราต้องแก้ไขปัญหาทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน โดยเป้าหมายของยูนิลีเวอร์ ได้แก่
- การไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานและการลดก๊าซเรือนกระจก GHG Footprint ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราตลอดสายห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2039 (ก่อนเป้าหมายของ Paris Agreement ในปี 2050) ตั้งแต่การจัดหาวัสดุที่เราใช้ไปจนถึงจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเรา โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเร่งแข่งขันสู่การปล่อยก๊าซเป็นศูนย์
- ยูนิลีเวอร์ เป็นผู้นำด้านวิธีการจัดซื้ออย่างยั่งยืนมานานนับทศวรรษ โดย 89% ของวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับป่ามีการรับรองว่าจัดซื้ออย่างยั่งยืนในระดับมาตรฐานที่เป็นที่ยอรับกันทั่วโลก บริษัทฯ วางแผนที่จะมีระบบซัพพลายเชนที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2023 โดยการยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใสผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ เช่น การติดตามผ่านดาวเทียม Geolocation Tracking และบล็อกเชน เร่งกระบวนการที่จะนำเกษตรกรรายย่อยเข้ามาในระบบ และเปลี่ยนรูปแบบการจัดซื้อเป็นแบบ Derivatives Sourcing
- ยูนิลีเวอร์ ต้องการช่วยสร้างธรรมชาติขึ้นมาใหม่ ด้วยการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ การคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และการอนุรักษ์น้ำ ในด้านการประหยัดน้ำและการเข้าถึงแหล่งน้ำ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ยูนิลีเวอร์จะให้อำนาจชาวนาและเกษตรกรรายย่อยรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและสร้างสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เพาะปลูกของพวกเขาขึ้นมาใหม่
- ยูนิลีเวอร์ จะยกระดับความพยายามที่จะอนุรักษ์น้ำ ปัจจุบันประชากรโลกกว่า 40% ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำและมากกว่า 2,100 ล้านคน ดื่มน้ำที่ไม่สะอาดและเป็นอันตราย จากความร่วมมือกับธนาคารโลก ยูนิลีเวอร์จะดำเนินโปรแกรมดูแลทรัพยากรน้ำสำหรับชุมชนกว่า 100 แห่ง ภายในปี 2030
เพื่อปกป้องทรัพยากรน้ำเพิ่มขึ้นไปอีก ยูนิลีเวอร์ มีเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้ (Biodegradable) ภายในปี 2030 เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำและระบบนิเวศทางน้ำ แม้สารบางประเภทที่เราใช้อยู่ ณ ปัจจุบันนี้ จะไม่มีทางเลือกที่เป็นชนิดที่ย่อยสลายได้ก็ตาม เราก็จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อคิดค้นนวัตกรรมและทางออกเพื่อช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้
ในประเทศไทย ยูนิลีเวอร์ ได้แนะนำแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ในไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งข้างในและข้างนอกเมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ เลิฟ บิวตี้ แอนด์ แพลนเน็ท และเซเว่นท์ เจนเนอเรชั่น อีกทั้งยังเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สำหรับแบรนด์ที่ขายดีที่สุดให้เป็นขวดที่รีไซเคิลมาจากพลาสติกใช้แล้ว (Post-Consumer Recycling: PCR)
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์หมวดเครื่องใช้ในบ้านได้เปลี่ยนมาใช้ขวด PCR มากถึง 80% เราได้เปลี่ยนขวดซันไลต์ ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำยาล้างจานขายดีอันดับ 1 ได้เปลี่ยนจากการใช้ขวด HDPE เป็นขวด PET ในปี 2017 ซึ่งลดจำนวนพลาสติกที่ใช้ถึง 274 ตันต่อปี และในเดือน ม.ค. 2019 เราก็ได้อัปเกรดขวดซันไลต์เพิ่มเติมจากขวด PET เป็นขวด PET ที่มาจากการรีไซเคิล 100% ทำให้ขวดซันไลต์เป็น PCR 100% และลดการใช้พลาสติกไปได้ถึง 551 ตันต่อปี นำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกมากถึง 56%