HomeBusinessBAM เปิดตัว บัณฑิต อนันตมงคล ซีอีโอคนใหม่

BAM เปิดตัว บัณฑิต อนันตมงคล ซีอีโอคนใหม่

บริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาร่วมด้วย ขณะที่ AMC เจ้าใหญ่ของไทยอย่าง บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้โอกาสเปิดตัวซีอีโอคนใหม่ บัณฑิต อนันตมงคล ที่จะมาเล่าถึงแผนธุรกิจในระยะต่อจากนี้

ตั้งเป้าปี’64 เรียกเก็บหนี้ 1.7 หมื่นล้าน

บันฑิต กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายในการบริหารงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยมีเป้าหมายให้ BAM คงความเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นสินทรัพย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

- Advertisement -

ด้วยการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ในระบบสถาบันการเงินของประเทศ เพื่อให้ลูกหนี้ได้ทรัพย์หลักประกันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย หรือที่ทำกินกลับคืนไป หรือสามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับเป็นหนี้ที่มีคุณภาพกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจปกติ รวมทั้งบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้มีสภาพดีพร้อมขายในราคาที่เป็นธรรม และยังเป็นการกระตุ้นให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองเติบโตต่อไปอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2564 BAM ตั้งเป้าผลเรียกเก็บ จำนวน 17,452 ล้านบาท ขณะที่ตั้งงบลงทุนซื้อสินทรัพย์ NPL/NPA เข้ามาบริหารจัดการไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท โดยการประมูลซื้อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ และการขายทอดตลาดที่กรมบังคับคดี ปัจจุบัน BAM มี NPL อยู่ในความดูแล จำนวน  85,102  ราย คิดเป็นภาระหนี้รวม 484,881 ล้านบาท และ NPA จำนวน 21,574 รายการ คิดเป็นราคาประเมินมูลค่า 62,571 ล้านบาท

เปิดช่องชำระหนี้ที่ดินออนไลน์

สำหรับการบริหาร NPL ใช้กลยุทธ์ลดระยะเวลาในการบริหารจัดการ โดยมุ่งเน้นการสร้างผลเรียกเก็บระยะสั้น โดยเร่งติดตามเงินรอรับจากกรมบังคับคดี พร้อมคัดพอร์ตลูกหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันออกประมูลขาย นอกจากนี้ ยังเร่งพัฒนาระบบเก็บหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (E-TDR) โดยเบื้องต้นลูกหนี้สามารถชำระผ่านแอปพลิเคชั่นได้

รวมทั้งเพิ่มฐานลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3,500 ราย โดยสร้างโอกาสในการประนอมหนี้ผ่านโครงการสุขใจได้บ้านคืน โครงการ BAM ช่วยลดเพื่อปลดหนี้ และโครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA นั้น BAM ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการจำหน่ายทรัพย์ให้ได้โดยเร็ว เพื่อลดระยะเวลาการถือครอง รวมทั้งคัดทรัพย์มาทำรายการพิเศษกว่า 3,000 รายการ พร้อมคัดทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มีมูลค่าสูง และทรัพย์เพื่อนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อซ้ำ รวมทั้งทรัพย์สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (SME และ Start Up)  นำเสนอขายพร้อมโซลูชั่นต่างๆ พร้อมเพิ่มฐานลูกค้าที่ซื้อแบบผ่อนชำระกับ BAM ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ภายในปี 2564

ลุยแผนตั้งบริษัทโฮลดิ้ง

นอกจากนี้ BAM อยู่ระหว่างการศึกษาการจัดตั้งกลุ่มบริษัท (Holding Company) เพื่อให้บริษัทสามารถแยกบริษัทลูก (Spinoff) ออกมาจากบริษัทแม่เพื่อดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน BAM อยู่ภายใต้กฎหมายพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ จึงมีข้อจำกัดในกระบวนการทำงาน ทั้งนี้ คาดว่าจะทำการศึกษาแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2564 และจะนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณา ก่อนจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาต่อไป

ในส่วนของแผนการตลาดปีนี้ เน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Target Segment) และจัดโปรโมชั่น แคมเปญอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น โปรโมชั่นโอนเร็ว รับเลย ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และบัตรกำนัล หากลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 วัน เป็นต้น รวมทั้งเตรียมจัดประมูลทรัพย์แบบออนไลน์ และในช่วงที่ประชาชนใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สื่อต่างๆ ในรูปแบบดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก

เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การออกบูธ หรือการจัดงานต่างๆ มีข้อจำกัด BAM จึงเร่งพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการติดต่อสื่อสารและใช้บริการ

เดินหน้าสู่โลกดิจิทัล

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM กล่าวอีกว่า บริษัทมีเป้าหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีสู่การเป็น “BAM Digital Enterprise” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงานให้เร็วขึ้น (Re-Process) นอกจากนี้ ยังมีนโนโยบายในการพัฒนาบุคลากรด้วยการ Reskill หรือ Upskill เพื่อเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุค Digital

นายบัณฑิต ยังได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2563 ว่า แม้จะเป็นปีที่มีความยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ BAM ยังมีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีผลเรียกเก็บเงินสดจำนวน 13,134 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก NPL จำนวน 8,396 ล้านบาท และรายได้จาก NPA จำนวน 4,738 ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,840 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน BAM ได้วางเป้าหมายผลเรียกเก็บในระยะ 5 ปีข้างหน้า ให้มีการเติบโตด้านรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ตั้งเป้าผลเรียกเก็บ 17,453 ล้านบาท ปี 2565 ตั้งเป้า 18,953 ล้านบาท ปี 2566 ตั้งเป้า  20,510 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้า 22,199 ล้านบาท และปี 2568 ตั้งเป้า  24,036 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา BAM ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) โดยให้ความช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด 5 ดี ของ BAM ประกอบด้วย ดีต่อประเทศ ดีต่อสังคม ดีต่อลูกค้าหรือลูกหนี้ ดีต่อผู้ถือหุ้น และดีต่อพนักงาน เพื่อสร้างการเติบโตในทุกมิติที่เกี่ยวข้องอย่างยั่งยืน 

อ่าน : โควิดฉุดตลาดอุปกรณ์สำนักงานร่วง Office Mate งัด 2 กลยุทธ์ฝ่าวิกฤต
อ่าน : ‘ทีวี ไดเร็ค’ ปรับใหญ่ลุยธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ เต็มสูบดันรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านในปี’67

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News