HomeBusinessเปิด 10 ปฏิบัติการ 'โออิชิ' สร้างความเชื่อมั่นดูดลูกค้าเข้าร้าน

เปิด 10 ปฏิบัติการ ‘โออิชิ’ สร้างความเชื่อมั่นดูดลูกค้าเข้าร้าน

การคลายล็อกดาวน์ จากการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจร้านอาหาร ต่างต้องเร่งเครื่องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพื่อกระตุ้นให้เข้ามาใช้บริการ “โออิชิ กรุ๊ป” จึงเร่งชูมาตรการความปลอดภัย ตอกย้ำ “ให้” มากกว่ารสชาติ คือความ “ใส่ใจ”

นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกลับมาเปิดให้บริการร้านอาหารในเครือโออิชิอย่างเต็มรูปแบบในครั้งนี้ จำนวน 269 สาขา ได้แก่  โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, โออิชิ บุฟเฟต์, นิกุยะ, ชาบูชิ,โฮว ยู, โออิชิ ราเมน, คาคาชิ และโอโยกิ บริษัทตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ

- Advertisement -

ทั้งนี้ โออิชิ กรุ๊ป ได้เปิด 10 ปฏิบัติการยึดหลักมาตรฐานตามแนวทางการปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตรการต่างๆ ดังต่อไปนี้

ปฎิบัติการที่ 1 การคัดกรองสุขภาพของพนักงาน จากนโยบายให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของพนักงานในเครือบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยการจัดตั้ง คลินิกตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์” ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้ผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตรวจคัดกรองพนักงานของบริษัทฯ สามารถตรวจหาเชื้อ โควิด-1

ทางโออิชิ กรุ๊ป ได้ส่งพนักงานที่อยู่หน้าร้านเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่คลินิกดังกล่าว เป็นการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งของตัวพนักงานเอง และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านอาหารในเครือโออิชิ นอกจากนั้นยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงานในร้าน และทำการล้างมือฆ่าเชื้อทุกครั้ง หลังจากนั้นจึงสวมถุงมือ สวมหน้ากาก และ Face Shield พร้อมทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ 70%

ปฎิบัติการที่ 2 การปรับรูปแบบให้บริการ โดยในกลุ่มร้านที่เป็นบุฟเฟต์ เปลี่ยนเป็นการปรุงอาหารตามที่ลูกค้าสั่งและให้พนักงานเสิร์ฟ

ปฎิบัติการที่ 3 การรักษาความสะอาดภายในร้าน เข้มงวดด้านความสะอาดของภาชนะและอุปกรณ์รับประทานอาหาร ไม่วางไว้ส่วนกลาง แต่ส่งหรือเสิร์ฟให้ลูกค้าโดยตรง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่ 82 – 96 องศาเซลเซียส แล้วบรรจุในถุงพลาสติกอย่างดี เสิร์ฟให้ลูกค้าเป็นชุดๆ แทนการไปหยิบใช้เอง รวมทั้งเปลี่ยนอุปกรณ์ส่วนกลางที่ให้บริการบริเวณเคาน์เตอร์ทุก 1 ชั่วโมง

ปฎิบัติการที่ 4 การลดการสัมผัสในการสั่งอาหาร ลดการสัมผัสตอบรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ‘New Normal’ โดยพัฒนา “ระบบสั่งอาหารไร้สัมผัส” (QR Oder) เป็นระบบการสั่งอาหารผ่านการสแกน QR Code โดยใช้โทรศัพท์ลูกค้าเพื่อแสดงสมาร์ทเมนู ระบบนี้เริ่มใช้แล้วที่ ร้านโออิชิ แกรนด์, โออิชิ บุฟเฟต์, โออิชิ อีทเทอเรียม, ชาบูชิ และกำลังทยอยใช้ในร้านอื่นๆ ต่อไป

ปฎิบัติการที่ 5 การบริการส่งอาหาร (Delivery) พนักงานส่งอาหารต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน รักษาระยะห่างกับลูกค้าไม่น้อยกว่า 1 เมตร ล้างมือก่อนออกไปส่งสินค้า และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ 70% ระหว่างปฏิบัติงานอยู่เสมอ พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อฉีดทำความสะอาดกล่องที่ใช้ส่งอาหาร เป็นต้น

สำหรับความปลอดภัยของลูกค้า โออิชิ กรุ๊ป ปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ได้แก่

ปฎิบัติการที่ 6 มาตรการ Social Distancing การจัดโต๊ะที่นั่งภายในร้านเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-1.5 เมตร และติดตั้งฉากกั้นใสบริเวณโต๊ะที่ลูกค้านั่งรับประทานอาหารรวมถึงบริเวณเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ส่วนบริเวณหน้าร้านสำหรับลูกค้ารอคิว ก็มีการจัดระยะห่าง 1 เมตรเช่นเดียวกันพร้อมทำสัญลักษณ์ที่ชัดเจน

ปฎิบัติการที่ 7 การคัดกรองก่อนเข้าร้าน เรามีเจ้าหน้าที่คอยตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้า พร้อมบริการแอลกอฮอล์ 70%ให้กับลูกค้าทำความสะอาดมือก่อนเข้าร้าน และขอความร่วมมือให้ลูกค้าใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเข้ารับบริการที่ร้าน พร้อมให้ลูกค้าลงสแกน QR code “ไทยชนะ” ตามที่ทาง ศบค.ขอความร่วมมือ

ปฎิบัติการที่ 8 การทำความสะอาดมือก่อนทานอาหาร โดยทางร้านมีการจัดวางแอลกอฮอล์ 70% ไว้ภายในร้านให้ลูกค้าทำความสะอาดมือก่อนรับประทานอาหาร

ปฎิบัติการที่ 9 การชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) โดยชำระผ่านคิวอาร์โค้ด เป็นการลดการสัมผัสและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า

ปฎิบัติการที่ 10 การจองโต๊ะล่วงหน้าผ่าน BevFood Application ลูกค้าสามารถเลือกแบรนด์ เลือกสาขา ระบุวันที่ เวลา และจำนวนที่จองโต๊ะผ่าน Application จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งข้อความติดต่อกลับเพื่อยืนยันสถานะการจอง เพื่อที่ลูกค้าไม่ต้องมายืนรอคิวที่หน้าร้าน เป็นบริการที่ลูกค้าเริ่มหันมาใช้กันมากขึ้นในช่วง New Normal

การปรับยุทธวิธีให้สอดคล้องกับสถานการณ์เฉพาะหน้าและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการนำเทคโนโลยี-ดิจิทัลมาปรับใช้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญที่สุดคือต้องลงมือทำอย่างจริงจังและเร็วที่สุด เป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์  โควิด-19 และสร้างความแข็งแกร่งให้เราก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน” นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวปิดท้าย

 

 

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News