2 ค่ายยักษ์ใหญ่ตลาดขนมขบเคี้ยว ผนึกกำลังร่วมกัน (Co-Branding) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ รุกตลาดไทยและทั่วเอเชีย

สมิทธิ จีรนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เถ้าแก่น้อยได้รับคำชวนจากทางพริงเกิลส์ แบรนด์ขนมขบเคี้ยวอันดับ 1 ของอเมริกาให้มาทำงานร่วมกันเพราะแบรนด์เถ้าแก่น้อยเองก็เป็นสาหร่ายที่มียอดขายอันดับ 1 และมีจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
วัตถุประสงค์ของการจับมือร่วมกัน หรือ Co-Branding ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้าง product สินค้าที่แปลกใหม่ ออกมาให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองกัน อย่างเช่น สินค้ารสชาติใหม่ “เถ้าแก่น้อยรสพริงเกิลส์ซาวครีมและหัวหอม” ภายใต้คอนเซ็ปต์ East Meets West
“เราหวังว่าการ Co-Branding ครั้งนี้ จะสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าต่างชาติอาทิ แถบยุโรป อเมริกาและแอฟริกา ที่มาท่องเที่ยวในเอเชียและยังไม่เคยรู้จักหรือลองแบรนด์เถ้าแก่น้อยอีกด้วย”

สำหรับการทำการตลาดนั้น ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางพริงเกิลส์และเถ้าแก่น้อยได้มีทำการตลาดร่วมกันทั้ง หนังโฆษณาในสื่อดิจิทัลและการทำแจกชิมสินค้านอกสถานที่ รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นในห้างร้านเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าใหม่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ
อวนิช บาจาจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เคลล็อกส์ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายพริงเกิลส์ (Pringles) กล่าวว่า พริงเกิลส์เป็นมันฝรั่งกระป๋องที่ครองใจคนทั่วโลกมากว่า 40 ปีด้วยรูปทรงอานม้าอันเป็นเอกลักษณ์ และยังวางจำหน่ายกว่า 140 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีรสชาติที่ถูกพัฒนาไปตามความต้องการของแต่ละท้องถิ่นกว่า 140 รสชาติ
“พริงเกิลส์เข้ามาแนะนำตัวให้คนไทยได้รู้จักในตลาดมันฝรั่งนานถึง 15 ปี จึงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเป็น Top of Mind ครองใจคนไทยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของการ Co-Branding ร่วมกับ ‘เถ้าแก่น้อย’ ซึ่งเป็นสาหร่ายปรุงรสยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย”

สำหรับ ตลาดขนมขบเคี้ยว ในปี 2562 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท โดยตลาดมันฝรั่งทอดกรอบมีมูลค่าอยู่ที่ 12,499 ล้านบาท เติบโต 14.3% ทั้งนี้ พริงเกิลส์ถือครองตลาดมันฝรั่งกระป๋องเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 90% โดยรสชาติที่ขายดีที่สุด คือ รสซาวครีมและหัวหอม ในขณะที่ตลาดสาหร่ายปรุงรสมีมูลค่าตลาดที่ 3,000 ล้านบาท เถ้าแก่น้อยถือครองส่วนแบ่งตลาดที่ 70% เติบโตจากเดิม 5% โดยมีสินค้าเด่นในปี 2562 ได้แก่ สาหร่ายย่าง เถ้าแก่น้อย BigRoll ที่เติบโตมากกว่า 40% และเถ้าแก่น้อยเทมปุระไข่เค็มที่เพิ่งฉลองยอดขาย 2 ล้านซองทั่วโลกไปเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา