เพนนี พรีเมียม ป๊อบคอร์น ตั้งเป้าธุรกิจปี 2563 ขยายเพิ่ม 6 สาขา รายได้เพิ่มเป็น 5 เท่า เน้นรุกตลาด ทั้ง รูปแบบองค์กรบริษัท คาเฟ่ นักท่องเที่ยว และเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านออนไลน์
เพนนี พรีเมี่ยม ป๊อบคอร์น ธุรกิจข้าวโพดอบกรอบเกรดพรีเมียมแบรนด์ไทย ถือเป็นหน้าใหม่ในวงการที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่กี่ปี แต่ผลตอบรับกระแสดีเกินคาด สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง
ย้อนหลังกลับไปช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา กระแสฮิตของขนมขบเคี้ยว อย่าง “ข้าวโพดอบกรอบระดับพรีเมี่ยม” เป็นที่นิยมอย่างมาก เห็นได้จากข้าวโพดอบกรอบแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา Garrett Popcorn (การ์เร็ต ป๊อปคอร์น) ยังได้เข้ามาเปิดธุรกิจขยายสาขากวาดรายได้ในประเทศไทย
หญิง-พรพิมล ปักเข็ม ประธานกรรมการ บริษัท เพนนินเพนนี พาทิซเซอรี่ จำกัด เริ่มธุรกิจข้าวโพดอบกรอบระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ไทย เพนนี พรีเมี่ยม ป๊อบคอร์น ในปี 2561 ถึงแม้จะเป็นหน้าใหม่ในวงการที่ทำธุรกิจนี้ได้ เพียงแค่ 2 ปี แต่ถ้าเทียบเรื่องรสชาติและคุณภาพของข้าวโพด เธอบอกว่า “สู้กับแบรนด์ดังจากต่างชาติที่อยู่ในธุรกิจมานานหลายสิบปีได้อย่างแน่นอน”
“ตอนเริ่มต้นธุรกิจก็ไม่ได้กังวลใจใดๆ หญิงเลือกทำเพราะใจรักมากกว่า ซึ่งหลังจากที่ได้เรียนการทำอาหารจากหลักสูตรชื่อดัง อย่าง “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตธานี ได้ฝึกมือในการทำอาหารเรื่อยๆ ก็ยิ่งสนุก”
พอได้ฝึกฝนทำอาหารคาวหวานต่างๆ ให้ครอบครัว เพื่อนสนิท ลองรับประทานอยู่เรื่อยๆ หลายคนที่ได้ลองชิมก็เริ่มติดใจ เกิดเป็นกระแสบอกต่อปากต่อปาก ให้ทำขายผ่านออนไลน์บ้าง เธอจึงเริ่มทำขนมขายโพสต์ผ่าน facebook page
พอกระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ ยอดขาย รายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จึงเกิดเป็นธุรกิจ “ข้าวโพดอบกรอบระดับพรีเมี่ยม” แบรนด์ “เพนนี พรีเมียม ป๊อบคอร์น” ที่สร้างรายได้อย่างจริงจัง
“เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของการทำขนม เหมือนกับทำของดีๆ ให้สมาชิกในครอบครัวที่เรารักได้รับประทาน หลีกเลี่ยงผงชูรส ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ทุกวัตถุดิบที่เราคัดมาทำข้าวโพดจึงต้องพิถีพิถัน คุณภาพดี”
การทำธุรกิจระดับพรีเมี่ยม วัตถุดิบและขั้นตอนในการผลิต คือ หัวใจสำคัญ เพนนี พรีเมียม ป๊อบคอร์น คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีเยี่ยม เช่น การใช้เมล็ดข้าวโพดจากอเมริกา, เนยแท้จากฝรั่งเศส 100% เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์, ใช้ฝักวานิลลาจากมาดากัสการ์ แหล่งวานิลลาที่ดีที่สุดในโลก, ใช้น้ำมันเมล็ดชาออแกนิก“ภัทรพัฒน์” จากโครงการหลวงมูลนิธิชัยพัฒา นอกจากนี้ ยังเลือกใช้การอบเมล็ดข้าวโพดแบบสุญญากาศปราศจากน้ำมัน ใส่น้ำตาลในปริมาณที่น้อย แต่ยังคงรสชาติความอร่อย ไม่หวานจนเกินไป
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ของการทำธุรกิจ ปัจจุบัน เพนนี พรีเมี่ยม ป๊อบคอร์น มีร้าน 3 สาขาในห้างชั้นนำ คือ พารากอน, เอ็มควอเทียร์ และไอคอนสยาม ส่วนอีก 1 ร้านคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน ในชื่อ เพนนี ป๊อบคอร์น คาเฟ่ (Pennii Popcorn Café) ที่ห้าง เซ็นทรัล @Central World ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ปี 2563 นี้ CEO แบรนด์ เพนนี พรีเมียม ป๊อบคอร์น บอกว่า น่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่ต่ำกว่า 5 เท่า คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากการใช้ช่องทางออนไลน์ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นมา ชิม ช้อป แชะ ในร้านคาเฟ่ ที่จำหน่ายเค้ก ขนมหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เสิร์ฟเคียงด้วยข้าวโพดเกรดพรีเมี่ยมในทุกจาน
มีการวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ และจะนำสินค้าเข้าไปฝากจำหน่ายภายในร้าน “เถ้าแก่น้อยแลนด์” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเซ็นสัญญาความร่วมมือกับสายการแห่งชาติ อย่างการบินไทย ในการนำข้าวโพดรสชีสขึ้นเสิร์ฟบนไฟล์ทยุโรปให้กับกลุ่มลูกค้าระดับชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ ตลอดระยะเวลา 1 ปี
เมื่อเทียบดูรายได้หลักของธุรกิจในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากการจัดกระเช้าของขวัญเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัทขนาดใหญ่หลายราย เพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้อื่นตามช่วงเทศกาลวันสำคัญๆ นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
