นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ (Policy Normalization) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น โดยธปท.ประกาศปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ให้กลับเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 จากที่ประกาศปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF เหลือ 0.23%ต่อปี เพื่อลดต้นทุนสถาบันการเงิน ให้ส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังภาคธุรกิจและภาคประชาชน โดยธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลง 0.40% ไปแล้วก่อนหน้านี้
การปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ดังกล่าว ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) ในอัตรา 0.40% ต่อปี ตามที่ได้ปรับลดลงไป 0.40% ในช่วงก่อนหน้า มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยอัตราดอกเบี้ย MLR เท่ากับ 6.15% MOR เท่ากับ 6.72% และ MRR เท่ากับ 6.77% ต่อปี สอดคล้องกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
โดยที่ธนาคารกรุงไทย ให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง โดยพิจารณาอย่างรอบคอบให้มีผลกระทบกับลูกค้าน้อยที่สุด โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการรายเล็กและกลุ่มเปราะบาง ที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ เพื่อดูแลช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยมาตรการความช่วยเหลือจะพิจารณาให้เหมาะสมกับลูกค้า แต่ละกลุ่ม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ตรงจุด และทันการณ์ ครอบคลุมทั้งการลดภาระทางการเงิน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เดิม การไกล่เกลี่ยหนี้ และการเสริมสภาพคล่อง โดยคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต พร้อมสนับสนุนการปรับตัวรองรับทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว สามารถแข่งขันได้ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นในทุกมิติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตรา 0.40% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป การตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เข้าสู่อัตราปกติ โดยธนาคารได้มีการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ตลาดและตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจอย่างรอบคอบแล้ว ทั้งนี้ กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างเหมาะสม ตรงจุด และทันการณ์ ตามแนวทางการดำเนินงานของสมาคมธนาคารไทย
กรุงศรีปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้
-ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 6.48%
-ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 6.725%
-ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 6.65%
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป