The Alley ครบรอบ 1 ปี ตั้งเป้ายอดขายชานมไข่มุกเพิ่มขึ้น 100% พร้อมขยายสาขาไม่น้อยกว่า 20 สาขาในปี 2563 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เตรียมเพิ่มสินค้าใหม่ ของหวาน เบเกอรี่ ไอศกรีม และแตกไลน์ธุรกิจสู่บริการ Catering
ตลาดชานมไข่มุกในอาเซียนและประเทศไทย
นายอนล ธเนศวรกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด มาสเตอร์แฟรนไชส์ The Alley แบรนด์ชานมไข่มุกจากประเทศไต้หวัน (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการ กล่าวว่า ข้อมูลจากแกร็บฟู๊ด (Grab Food) เผยข้อมูลปี 2561 ตลาดชานมไข่มุกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 3,000% จากแบรนด์กว่า 1,500 แบรนด์ ที่มีหน้าร้านจำหน่ายรวมกว่า 4,000 สาขา โดยชาวไทยบริโภคชานมไข่มุกมากที่สุด เฉลี่ยคนละ 6 แก้วต่อเดือน ตามมาด้วยชาวฟิลิปปินส์บริโภคชานมไข่มุกเฉลี่ยคนละ 5 แก้วต่อเดือน ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย บริโภคเฉลี่ยคนละ 3 แก้วต่อเดือน ทำให้เห็นว่าตลาดชานมไข่มุกยังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดชานมไข่มุกสูงถึง 2,500-3,000 ล้านบาท

จุดเด่นของแบรนด์ The Alley
The Alley เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยครบรอบ 1 ปี นับว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายกว่า 100,000 แก้วต่อเดือน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักอยู่แล้ว อีกทั้งสินค้ามีความแปลกใหม่ในตลาด ประกอบกับรูปแบบร้านที่ตกแต่งเป็นธรรมชาติตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนารูปแบบร้านใหม่ทั้ง The Alley Express สำหรับลูกค้าที่ซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือที่ทำงาน และรูปแบบ Delivery โดยเน้นการบริการที่รวดเร็วขึ้น ส่วน The Alley Café มีเมนูให้เลือกหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น มีพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถนั่งภายในร้านได้ และในอนาคตอาจจะขยายร้านทั้ง 2 รูปแบบ ให้มีสาขาเพิ่มขึ้นและอาจพัฒนาเป็นรูปแบบร้านอื่น ๆ
จำนวนสาขา The Alley และยอดขายในปี 2562–2563
ปัจจุบัน The Alley มีสาขาทั้งหมด 12 สาขา ได้แก่ สยามสแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ ซีคอนสแควร์ บางจาก เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลลาดพร้าว ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต สีลมคอมเพล็กซ์ Gump Ari เมกาบางนา และนิมานเหมินท์ เชียงใหม่ อย่างไรก็ดี ภายในสิ้นปี 2562 นี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ ไอคอนสยาม และเดอะมอลล์งามวงค์วาน ส่วนยอดขายชานมไข่มุกในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่า 100 ล้านบาท และปี 2563 ตั้งเป้ายอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้น 100%

เป้าหมายของ The Alley ในอนาคต
นางสาวอุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ ผู้ร่วมก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด กล่าวว่า สำหรับการขยายสาขาภายในปี 2563 จะมีสาขารวมในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 20 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้ง อุดรธานี ชลบุรี ระยอง และภูเก็ตซึ่งเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง
อีกทั้งเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อย่างไอศกรีม Soft Serve นำเมนู Royal No.9 Milk Tea ซึ่งเป็นเมนู signature นำมาพัฒนาสูตรเสิร์ฟพร้อมกับเยลลี่สูตรพิเศษ เพิ่มความอร่อยที่แปลกใหม่ ส่วนเบเกอรี่ ทั้ง Sausage Puff, Bacon & Egg Panini, ครัวซองต์ ที่พร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ ให้กับลูกค้าที่ The Alley Café และเครื่องดื่มร้อน ที่เพิ่มเข้ามากว่า 20 เมนู โดยนำทั้ง Brown Sugar ชานม และชาใสมาทำเครื่องดื่มร้อน
นอกจากนี้ เตรียมขยายธุรกิจการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ (Catering) สำหรับงานสัมมนา อีเว้นท์ งานแต่งงาน จับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ออฟฟิศสำนักงาน โดยนำรูปแบบของ The Alley ให้บริการกับลูกค้าเหมือนกำลังรับประทานอยู่ที่ร้าน

The Alley เน้นใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบออแกนิคเข้ามาเป็นส่วนผสมในเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ อย่าง น้ำเชื่อมที่ผลิตจากอ้อยออแกนิค ที่ไม่ผ่านการฟอกขาว และใบชาออแกนิค ที่ผ่านกระบวนการปลูกแบบออแกนิคแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Go Green ทั้งการดำเนินการภายใน ที่ใช้ส่วนประกอบออแกนิค บริหารจัดการเศษอาหารอย่างมีศักยภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ และการดำเนินการภายนอกด้วยการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ได้แก่ การรณรงค์ลดขยะพลาสติก ด้วยการนำแก้วและหลอดดูดของตัวเองมาใส่เครื่องดื่ม รณรงค์ให้ใช้ถุงกระดาษ ถุงผ้าใส่เครื่องดื่มแทนพลาสติก โดยจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้าเพื่อใช้เป็นส่วนลดในการช่วยกันส่งเสริมการลดขยะจากพลาสติก