หลังจากการยุติการออกอากาศช่อง 28 และ 13 ทำให้ช่อง 3 สามารถหันกลับมาบริหารช่อง 33 ได้อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าขึ้นเป็นสถานีข่าวอันดับ 1 เพิ่มเรตติ้ง และยอดขาย ในทุกรายการข่าว
โดยจะเริ่มปรับโฉมรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ และในไตรมาส 4 จะปรับให้ครบทุกรายการข่าว นอกจากนี้การทำข่าวจะเน้นไปที่ข่าว 3 สาย คือ สังคม อาชญากรรม และ บันเทิง

จากนั้นในไตรมาสที่ 4 จะทำการปรับรายการข่าวอื่น ๆ ที่เหลือ และในปีหน้าจะเริ่มปรับรายการวาไรตี้ และละครต่อไป

นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายข่าว เปิดเผยว่า “เราตั้งเป้าเป็นสถานีข่าวอันดับ 1 โดยการเพิ่มจุดเด่นของแต่ละรายการเข้ามา เปลี่ยนอารมณ์ของสตูดิโอข่าว เน้นการใช้ กรีนสกรีน ใช้กราฟิกเข้ามาช่วยในการอธิบายข่าว เบื้องต้นจะปรับรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ ก่อน

ข่าว 3 สายหลักที่เราจะเน้นคือ สังคม อาชญากรรม และ บันเทิง เราทำการรวมสายข่าวจากทั้งหมด 9 โต๊ะ ให้เหลือแค่โต๊ะเดียว

ซึ่งจุดแข็งของช่อง 3 คือการมีผู้ประกาศที่เป็นที่รู้จัก และมีความน่าเชื่อถือ โดยเรามีผู้ประกาศมากถึงเกือบ 50 คน ซึ่งหลังจากนี้ผู้ประกาศจะต้องทำหน้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ชมที่มีความเดือดร้อน รวมถึงการสร้างเรื่องดีๆ ให้กับสังคม

ส่วนตัวมองว่าการคืนช่อง เป็นการเพิ่มการแข่งขัน เราคาดหวังจะสร้างรายได้เข้ามามากขึ้น เพราะปัจจุบันรายได้หลักมาจากละคร และวาไรตี้ มากถึง 80% ของสถานี ส่วนข่าวนั้นทำรายได้ไม่ถึง 10% และตั้งเป้าเรตติ้งข่าวจะอยู่ที่ 1.5-2 ขึ้นไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลใน 2 ไตรมาสต่อจากนี้

นอกจากนี้ช่อง 3 ยังมองธุรกิจใหม่อย่างออนไลน์ ที่มีคนติดตามทุกแพลตฟอร์มรวมกันถึง 44 ล้านคน และการขายคอนเทนต์ไปต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำรายได้ประมาณ 10% ของสถานีในปีหน้า”
