“พิชิต” แจงไม่เคยต้องโทษอาญา มีคุณสมบัติเป็น รมต.ได้
พิชิต ชื่นบาน ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเคยเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในปี 54-56 แถมในปี 62 ยังเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ อีกด้วย ตนไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ไม่เคยต้องคำพิพากษาในคดีความอาญา

สำหรับในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่หรือศาล คดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในปี 2552 ว่า “ร่วมกันใช้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานฯ” แต่พนักงานสอบสวน (ตำรวจ) สน.ชนะสงคราม มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 มีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด
ตนถูกสั่งจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาล ไม่ใช่ความผิดทางอาญา อีกทั้งเมื่อผมจะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่ถูกตัดสิทธิไม่ให้ยื่นอุทธรณ์ ทั้งที่ไม่มีกฎหมายรองรับ และใครๆก็ตามที่ได้รับโทษจำคุก แต่พ้นโทษมาแล้ว 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ 2560 ให้โอกาสบุคคลนั้นสามารถเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้
เลขา กกต. ยัน “พงศธร” ไม่ขาดคุณสมบัติลงเลือกตั้ง
แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส.ก้าวไกล ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่างลง ขณะที่ยังเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เข้าข่ายไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ เนื่องจากมีการตั้งคำถามเรื่องการเสียภาษี ว่าตนขอชี้แจงในหลักกฎหมายก่อนว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า เมื่อกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้วก็ให้สิ้นสุดความเป็นผู้สมัคร

นั่นหมายความว่าผู้สมัครสามารถไปสมัครรับเลือกตั้งถ้ามีการเลือกตั้งแทนในที่ว่างได้ แต่ ณ วันสมัครต้องมีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด หมายความว่า ทุกคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ที่กกต.ส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้ไม่มีสถานะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว แต่ท่านก็เป็นผู้ที่อาจจะถูกเรียกให้เป็นผู้แทนราษฎรในลำดับถัดไปได้ถ้ากรณีตำแหน่งของพรรคการเมืองนั้นว่างลงตามมาตรา 105 (2)
โดยผู้สมัครที่ระยองสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ จริงๆ เมื่อพ้นจากความเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นคนธรรมดา แต่ขอให้ ณ วันลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ของผู้สมัครสส.
“ก้าวไกล” ยังไม่เคาะแนวทางผู้นำฝ่ายค้าน
29 ส.ค.2566 ที่พรรคก้าวไกล มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ สส.ก้าวไกล ประจำสัปดาห์ นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล และชัยธวัช ตุลาธนเลขาธิการพรรคฯ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ภายหลังการประชุม ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลัว่า ส่วนประเด็นเรื่องการวางตัวประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคก้าวไกลได้โควตามา 10 คณะนั้น ยังไม่มีการหาข้อสรุปในวันนี้ โดยในช่วงนี้พรรคได้เปิดโอกาสให้ สส.ที่สนใจ ได้สมัครรับคัดเลือกในพรรค เตรียมนำเสนอวิสัยทัศน์ในที่ประชุม สส. หลังสัปดาห์หน้าที่จะได้ทราบว่าพรรคก้าวไกลจะได้ คณะกรรมาธิการชุดใดบ้างในส่วนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านนั้น ที่ประชุมยังหาข้อสรุปไม่ได้
แต่ได้หารือเรื่องบทบาทการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ซึ่งเน้นว่าจะไม่ทำหน้าที่คัดค้านเพียงอย่างเดียว แต่เราจะตรวจสอบ และพร้อมร่วมมือหลากหลายภาคส่วนเพื่อให้ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ต้องเป็นพรรคที่แม้ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร แต่ต้องเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ มีเป้าหมายคือ การพิสูจน์ว่าพรรคก้าวไกล พร้อมเป็นฝ่ายบริหารเท่านั้นในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
“รทสช.” แจงตั้งคนนอกเป็น รมช.คลังใช้มืออาชีพทำงาน
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคที่คัดเลือกผู้เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด 4 คนซึ่งได้ส่งรายชื่อไปให้กับทางแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

พรรครวมไทยสร้างชาติได้ส่งรายชื่อพีระพันธุ์ไปดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกฤษฏา จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นโควตาคนนอก
ทั้งนี้ พรรคได้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งคนในและคนนอก เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติอย่างสูงสุด สำหรับการนำคนนอกเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้พิจารณาจากบุคคลที่มีความเหมาะสมมีความรู้ความสามารถในกระทรวงที่ได้รับมอบหมายมา จึงได้พยายามหาคนที่มีความรู้ความสามารถสามารถขับเคลื่อนงานของกระทรวงการคลังเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
“ก้าวไกล” ห่วง รมต.ศึกษาฯได้คนไม่เหมาะสม
ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนการศึกษา กล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีชื่อของ พล.ต.อ.เพิ่มพูล ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรี ว่า ตนมีความกังวลใจ เนื่องจากเห็นโผคณะรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาศึกษาธิการแล้ว ไม่มีคนในแวดวงการศึกษามากำกับดูแล ซึ่งหากจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงตั้งใจจะมาปฎิบัติหน้าที่จริง แล้วอยากติดต่อขอความรู้ ทีมการศึกษาพรรคก้าวไกลก็ยินดีให้คำแนะนำ

เมื่อถามว่า เป็นไปตามคาดหรือไม่ ปารมี กล่าวว่า ไม่ค่อยเป็นไปตามคาด เพราะใจหวังว่าอยากได้คนที่มีความรู้พื้นฐานด้านการศึกษา จะได้ปฏิรูประบบได้ทันทีต่อเนื่อง เนื่องจากการศึกษาตอนนี้แย่มาก การที่ได้รัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ด้านนี้ กว่าจะคลำทางใช้เวลานาน
เมื่อถามว่า กระทรวงศึกษาธิการถูกวิจารณ์เยอะว่าตามโผ ได้คนที่ไม่ตรงตามคุณลักษณะ นายปารมี กล่าวว่า ใช่ ตนก็จบครุศาสตร์ ได้พูดคุยกับเพื่อนครูหลายคนก็ท้อกันเลย หลายคนโพสต์เฟซบุ๊กรุนแรง ถ้าจะเอาคนที่ไม่รู้งานมาอยู่กระทรวงนี้ ให้ครูเขาทำกันเองดีกว่าหรือไม่ ซึ่งก็หวังว่ารัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่งคงจะใจกว้างที่จะรับฟัง