Instagram โชว์ฟีเจอร์ตอบโจทย์สื่อสารมวลชน ชวนสื่อไทยหันใช้ Instagram ในการรายงานข่าว และสร้าง engagement กับผู้รับสาร
ปุตรี ศิลาลาฮี ผู้จัดการส่วนการสื่อสารระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Instagram กล่าวว่า ปัจจุบันมีสำนักข่าวและผู้สื่อข่าวทั่วโลกใช้ Instagram ในการรายงานข่าว ในการกระบวนการสร้าง engagement กับผู้รับสาร ชี้ยังเห็นสื่อไทยใช้ Instagram ในงานข่าวน้อย จึงเดินหน้าโปรโมทการใช้งาน Instagram ให้สื่อไทย
ปุตรี ตั้งคำถามว่า Why Instagram? ทำไมต้องใช้ Instagram ในงานข่าว เหตุผลก็เพราะ Instagram เป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ใหญ่ระดับโลก มีผู้ใช้งานประมาณ 1 พันล้านคนต่อเดือนทั่วโลก ในจำนวนนี้ราว ๆ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ใช้งานที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา และฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากของ Instagram และเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับการรายงานข่าว ก็คือ Stories
“Instagram อยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนผ่านของกรสื่อสารด้วยภาพ เพราะ Instagram คือ จุดศูนย์รวมของ ภาพ/วิดีโอ และ ผู้คน”
Stories เกิดมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของคนที่จะดูวิดีโอสั้น ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ มากขึ้นและมากขึ้น ทั้งนี้บน Instagram จะมีการแสดงวิดีโอ ได้หลายจุด ได้แก่ ในหน้า Feed ในส่วนของ Stories และการทำ Live วิดีโอ
“Instagram เป็นสากล แม้คำบรรยายภาพ/วิดีโอ เป็นภาษาไทย แต่ผู่คนเข้าถึงเนื้อหาบน IG ผ่าน # และภาพ เพราะฉะนั้น เนื้อหา เรื่องราวที่ต้องการถ่ายทอด สามารถขยายให้ไปสู่กลุ่มผู้ชมในวงกว้างในระดับโลกได้ทันที”
ปัจจุบัน Stories บน Instagram มีผู้ใช้เป็นประจำต่อเดือนราว ๆ 500 ล้านคน และวิดีโอ คือ เนื้อหา ที่ดีที่สุดที่จะหยุดความสนใจของผู้ใช้งานให้ดูและมีปฏิสัมพันธ์ด้วย Instagram เผยว่า วิดีโอ มีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อปีที่ผ่านมาเนื้อหาวิดีโอเติบโตมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
ในประเทศไทยเอง Instagram ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนผู้ใช้ได้ แต่ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญมากต่อ Instagram
ทั้งนี้ คนไทยค้นหาอะไรบน Instagram ปุตรี กล่าวว่า คนไทยชอบค้นหาสินค้าส่วนตัว สินค้าแฟชั่น และสินค้าความงาม ซึ่ง Instagram ให้ความสำคัญกับการเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างโอกาสให้กับคนทั่วไปที่เป็นนักสร้างสรรค์เนื้อหา และองค์กธุรกิจที่ต้องการใช้ Instagram เป็นช่องทางในการสื่อสาร “เนื้อหา” ที่ต้องการไปยังผู้รับสาร กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ทันทีทันใด
What does the news look like on Instagram?
ธรรมชาติของพฤติกรรมของ Instagram จะเน้นที่ความเป็น First-Person อาทิ @andersomcooper ทำ personal live โชว์ความเรียล ความสด เสริมให้เกิดการติดตามมากกว่าแค่รายงานข่าวสดจากพื้นที่ หรือห้องส่ง การทำเช่นนี้ทำให้เขาสามารถสร้าง engagement กับผู้ชม และเกิดยอดวิวที่มากกว่า
Instagram คือ แหล่งรวมของคนรุ่นใหม่ (Young) เพราะฉะนั้น สำนักข่าวควรจะต้องทำเนื้อหาที่ดึงดูดคนอายุน้อยบน Instagram ตัวอย่างเช่น @bbcnewsbest ที่เดิมทำข่าวแล้วนำวิดีโอที่ออกอากาศแล้วขึ้น Feed แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้น มีการใช้ Instagram เข้ามาในการรายงานข่าวในส่วนต่าง ๆ มีการใช้คนรุ่นใหม่ในการทำ Live บน Instagram เป็นต้น เพราะวิดีโอแนวตั้ง คือ แนวโน้มของการรับสารของคนรุ่นใหม่
เนื้อหาควรมีความเป็น Exclusive เป็นเนื้อหาที่จะไม่เห็นจากช่องทางอื่น ๆ แต่จะได้เห็นจาก Instagram เท่านั้น อาทิ ฉาก behind the scene ที่สามารถถ่ายทอดผ่านวิดีโอ 15 วินาทีบน Stories เป็นต้น หรือสามารถสร้างเนื้อหาที่เป็น Community-Driven เป็นเนื้อหาที่เป็นที่สนใจของกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม
What kinds of storytelling work best?
วิธีการเล่าเรื่องงานข่าวบน Instagram จะเป็นเช่นไรดี? ปุตรี เล่าว่า Instagram ได้ทำงานร่วมกับสำนักข่าวทั่วโลก ในการนำ Instagram ไปใช้ในงานข่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้เกิดการเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายได้กว้างมากขึ้นและมีประสิทธิผลมากขึ้น
ที่ผ่านมามีสำนักข่าวจากทั่วโลกได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นการนำเสนอด้วยภาพและวิดีโออย่าง Instagram ไปแล้วจำนวนมาก และแม้ว่าจะยังไม่ค่อยเห็นสื่อในประเทศไทยใช้ประโยชน์จาก Instagram ในงานข่าวมากนัก แต่ประเทศไทยก็คือ ประเทศหลักของ Instagram ที่ผ่านมาจะเห็นผู้ที่มีชื่อเสียงและธุรกิจในประเทศไทยใช้ประโยชน์จาก Instagram ได้อย่างโดดเด่น
ทั้งนี้ Instagram มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์งานข่าวในเกือบทุกรูปแบบของการรายงานข่าวไม่ว่าจะเป็นการทำข่าวสั้นทันเหตุการณ์ หรือ Breaking news ข่าวชีวิตบุคคลที่น่าสนใจหรือการสัมภาษณ์ (Profiles & Interview) ข่าวสืบสวน รายงานข่าวธุรกิจ (Enterprise Reporting) และรวมถึงการถ่ายทอดสดจากพื้นที่เมื่อมีเหตุการณ์หรือกิจกรรมสำคัญ ๆ (Live event coverage)
อย่างไรก็ดี การจะใช้ Instagram ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในงานข่าว การใช้ Instagram เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ผู้ใช้ควรจำต้องรู้จัก “The basics” ของ Instagram ก่อน
ขอสรุปง่าย ๆ ว่า “The basics” ของ Instagram คือ “5 สิ่งที่คุณควร (ต้อง) รู้จาก Instagram”
ประการแรก คือ ต้องชัดเจนว่าจะใช้ Instagram เพื่อวัตถุประสงค์ใด (Find your focus, make it clear) ผู้ใช้งานสามารถสร้างความชัดเจนในทุกส่วนที่แสดงเนื้อหาเกี่ยวผู้ใช้งาน ได้แก่ ประวัติ (Bio) ส่วนของ Highlights และส่วนของ Grid
ประการต่อมา คือ “อย่าคิดเยอะ” (Don’t overthink it) เพราะพฤติกรรมผู้ใช้งาน Instagram ส่วนใหญ่ชอบความ real สมจริง จับต้องได้ ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบ
และ หมั่น “เสนอหน้า” (Show your face) ในกรณีนี้ อาจคล้ายกับการ “เปิดหน้า” ของสื่อทีวี ซึ่งผู้ติตดาม ผู้ชมเนื้อหาข่าวบน Instagram ต้องการเห็นหน้าผู้รายงานข่าวด้วย การ “เสนอหน้า” เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติตดาม เพราะผู้ติดตามมาติดตาม IG เพราะความน่าสนใจ แต่เขาจะยังคงติดตามอยู่เพราะความเป็นตัวตนของผู้นำเสนอข่าว
ต้องใช้ tags หรือ แฮทแท็ก (#) ให้เกิดประโยชน์ (Use tacs to help people find you) แต่อย่ามากจนเกินไป Instagram เป็นแพลตฟอร์มสากล มีผู้ใช้งานโลกและสื่อสารเข้าถึงกันได้ง่าย ๆ ผ่าน แฮทแท็ก เนื้อหาหลักของ Instagram คือ ภาพและวิดีโอ แต่แคปชั่นหรือคำบรรยายภาพ/วิดีโอ ก็มีความสำคัญ แม้ผู้รับสารจะสื่อสารคนละภาษา แต่สามารถเข้าถึงเนื้อหาภาพ/วิดีโอที่เข้าใจได้ ผ่านแฮทแท็ก
จงใช้ทุกอย่างที่ Instagram มีให้ ! (Use all the parts of Instagram) ไม่ว่าจะเป็น Feed, Stories, Live และ IGTV แต่ควรเรียนรู้แต่ละฟีเจอร์ให้ถ่องแท้เสียก่อนว่า ควรใช้ฟีเจอร์ไหน อย่างไร บ่อยแค่ไหน เพื่อให้เกิดประโยน์สูงสุด
อาทิ ควรโพสต์บนหน้า Feed อย่างน้อยวันละ 1 โพสต์ และควรโพสต์ทั้งส่วนที่เป็น Highlight ด้วย และโพสต์ควรเป็นโพสต์ที่เอื้อต่อการสนทนา หรือดึงดูดให้เกิดการ comment ใต้โพสต์
ส่วน Stories นั้น ควรจะโพสต์วันละประมาณ 5 ถึง 8 ชิ้น เป็นวิดีโอสั้น 15 วินาที ส่วนการทำ Live ก็อาจจะทำเดือนละครั้ง อาจจะเป็นการรายงานสดจากพื้นที่ หรือการสร้างการปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบถาม-ตอบกับผู้ชม/ผู้ติดตาม และสำหรับ IGTV นั้น ควรจะโพสต์สัปดาห์ละครั้ง อาจจะเป็นการนำเสนอชุดเนื้อหา ที่เป็น series ได้ เพื่อให้เกิดการติดตาม เป็นต้น
