สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2562 หรือ Thailand Internet User Behavior 2019 ชี้ ทศวรรษที่ผ่านมา คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 150% ส่งผลให้ปัจจุบันไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 47.5 ล้านคน หรือราว 70% ของจำนวนประชาชนทั้งหมด
-‘วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ’ นั่งประธานบอร์ดใหม่ ETDA
จากการสำรวจข้อมูลของประชาชนเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต ประจำปี 2562 ผ่านทางออนไลน์ ช่วงเดือน ส.ค.- ต.ค. 2562 โดยมีคนไทยเข้ามาตอบแบบสอบถามกว่า 17,242 คน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ปี 2562 คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง 22 นาที เพิ่มขึ้น 17 นาทีจากปีที่ 2561 และเมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นเทียบกับชั่วโมงการใช้งาน พบข้อมูล ดังนี้
ประเด็นเพศ พบว่า เพศทางเลือกครองแชมป์ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด 11 ชั่วโมง 20 นาที รองลงมาคือ เพศชาย 10 ชั่วโมง 25 นาที และเพศหญิง 10 ชั่วโมง 17 นาที
ประเด็น Generation พบว่า
-Gen Y (19-38 ปี) ยังคงครองแชมป์การใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดติดต่อกัน 5 ปีซ้อน โดยมีชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 10 ชั่วโมง 36 นาที
-Gen Z (ต่ำกว่า 19 ปี) อยู่ที่ 10 ชั่วโมง 35 นาที
-Baby Boomer (55-73 ปี) อยู่ที่ 10 ชั่วโมง
-Gen X (39-54ปี) อยู่ที่ 9 ชั่วโมง 49 นาที ตามลำดับ
ประเด็นอาชีพ พบว่า ไม่ว่าอาชีพไหนก็ใช้อินเทอร์เน็ตแทบไม่ต่างกัน โดย
-นักเรียน/นักศึกษา ใช้อินเทอร์เน็ตสูงสุด อยู่ที่ 10 ชั่วโมง 50 นาที
-พ่อบ้าน/แม่บ้าน 10 ชั่วโมง 38 นาที
-เจ้าของกิจการ/ประกอบธุรกิจส่วนตัว 10 ชั่วโมง 34 นาที
-คนว่างงาน/ไม่มีงานทำ 10 ชั่วโมง 32 นาที
-อาชีพอิสระ/ฟรีแลนซ์ 10 ชั่วโมง 30 นาที ตามลำดับ
เช่นเดียวกับ ประเด็นด้านพื้นที่ พบว่า มีชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตใกล้เคียงกัน
-ภาคเหนือมีจำนวนชั่วโมงการใช้อยู่ที่ 10 ชั่วโมง 31 นาที
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ชั่วโมง 28 นาที
-ภาคกลาง 10 ชั่วโมง 19 นาทีกรุงเทพฯ 10 ชั่วโมง 19 นาที
-ภาคใต้ 10 ชั่วโมง 17 นาที
ซึ่งอาจเป็นผลมาจากนโยบายเน็ตประชารัฐที่คลอบคลุมพื้นที่แล้วกว่า 24,700 หมู่บ้าน และบริการ Free WI-FI ที่คลอบคลุมชุมชนกว่า 10,000 จุด ทำให้คนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กว่า
-91.2% ใช้อินเทอร์เน็ตไปกับ Social Media (Facebook, Line, Instagram) ซึ่งถือเป็นกิจกรรมยอดฮิต 7 ปีซ้อน
-71.2% ดูหนัง ฟังเพลง
-70.7% ค้นหาข้อมูลออนไลน์
-62.5% รับ-ส่งอีเมล
-60.6% การชำระเงินค่าสินค้าและบริการทางออนไลน์
ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่การชำระเงินติด 1 ใน 5 ของกิจกรรมยอดฮิต สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของ Online payment services ของไทยที่เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ กิจกรรมออนไลน์ที่กำลังมาแรงและมีการเติบโตเพิ่มขึ้นหากเทียบกับปี 2561 คือ การสั่งอาหารออนไลน์ ได้รับความนิยมมากสุด เพิ่มขึ้นจากปี 61 ถึง 15.1% รองลงมาคือ การชำระค่าสินค้าและบริการ ใช้บริการเพิ่ม 11.4% และการรับ-ส่งสินค้า/พัสดุ/เอกสารทางออนไลน์ เพิ่มขึ้น 11.0% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาช่องทางออนไลน์ไหน ถูกใจคนซื้อ-ขายมากที่สุด พบว่า ช่องทางที่ผู้ซื้อเลือกใช้เพื่อซื้อสินค้ามากที่สุด คือ
e-Marketplace ได้แก่ Shopee 75.6% รองลงมาคือ Lazada 65.5%
Social Media ได้แก่ Facebook Fanpage 47.5% และ Line 38.9% ต่างจากช่องทางที่ผู้ขายนิยมใช้ที่เพื่อขายของออนไลน์มากที่สุด คือ Facebook Fanpage 64.0% รองลงมาคือ Shopee 43.1% และ LINE 39.5%
และยังพบว่า คนไทยนิยมใช้ LINE ติดต่อสื่อสาร 98.5% รองลงมาคือ Facebook Messenger, FaceTime และ WhatApp ตามลำดับ
แม้จากการสำรวจจะพบ ปัญหากวนใจในการใช้อินเทอร์เน็ต มากสุดที่คือ
-โฆษณาออนไลน์รบกวนการใช้งาน 78.5%
-รองลงมาคือความล่าช้าในการเชื่อมต่อ 68.7%
-ปัญหาข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ 35.8%
แต่ผู้ตอบแบบสอบถาม 73.3% ยังคงเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ความเชื่อมั่นที่ค่อนข้างสูงนี้
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเอาใจใส่ในการเพิ่มมาตรการลดภัยคุกคามออนไลน์ต่างๆ เช่น จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย หรือ Anti-Fake News Center ของกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อลดปัญหาข่าวปลอม และการมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC หรือ Online Complaint Center ของ ETDA ที่เปิดให้ผู้ใช้ออนไลน์สามารถขอคำปรึกษาและร้องเรียนปัญหาออนไลน์ ได้ทั้งช่องทางโทรศัพท์สายด่วน 1212 ตลอด 24 ชม. และอีเมล 1212@mdes.go.th หรือเว็บไซต์ www.1212occ.com เป็นต้น
สำหรับประเด็นร้อน Hot Issue ความรู้ความเข้าใจเรื่องดิจิทัลไอดี ETDA พบว่า กิจกรรมการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่คนส่วนใหญ่รู้จักและเคยทำมาก่อนกว่า
-91.6% คือการกรอก รหัส OTP
-85.9% การสมัครใช้บริการออนไลน์ของเอกชน โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคล
-82.1% การเข้าใช้บริการออนไลน์ของภาคเอกชนด้วยรหัสผ่านที่ตั้งขึ้นมา
โดยกิจกรรมที่นิยมสร้างบัญชีใหม่ เพื่อยืนยันการใช้บริการมากที่สุดคือ การต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ออนไลน์ รองลงมาคือ การซื้อขายสินทรัพย์ออนไลน์ และการเรียนออนไลน์
ส่วนกิจกรรมที่นิยมใช้บัญชีเดิม (บัญชีใน Social Media, Internet Banking ฯลฯ) มากที่สุดคือ ใช้รถโดยสารออนไลน์ รองลงมา สั่งอาหารออนไลน์ และอ่านหนังสือทางออนไลน์ และเมื่อถามว่า ต้องการใช้บัญชีเดียวในการเข้าถึงทุกบริการออนไลน์หรือไม่
ส่วนใหญ่ 64.4% ตอบว่าต้องการใช้บัญชีเดียวเข้าถึงทุกบริการ 23.8% ตอบว่าไม่แน่ใจ และ 11.9% ตอบว่าไม่ต้องการ
ประเด็นที่ผู้ตอบแบบสอบถามต้องการให้ภาครัฐดูแลมากที่สุด คือ
-ความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล 61.4%
-การมีกฎหมายกำกับ ดูแลหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 18.5%
-การรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ 11.2%
-ระบบที่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง 7.2% เป็นต้น
ทั้งนี้ ETDA ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และอีคอมเมิร์ซของไทยให้ได้มาตรฐาน มั่นคงปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือ ได้จัด “โครงการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย” (Thailand Internet User Behavior) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 (2556-ปัจจุบัน) เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย ที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในมิติต่าง ๆ
เพื่อนำไปต่อยอดการกำหนดยุทธศาสตร์ ส่งเสริม และสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากลและช่วยให้มีข้อมูลเพื่อใช้ในการดูแลประชาชนให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างสร้างสรรค์และมั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการทำ Marketing และกลยุทธ์เชิงธุรกิจอื่น ๆ ของผู้ประกอบการ
เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วย โดยตลอด 6 ปีที่ได้เผยแพร่ผลการสำรวจ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน นำข้อมูลไปอ้างอิงและใช้ประโยชน์กันในวงกว้าง