“เศรษฐา” พบทูตฯจีน หารือผ่อนปรนวีซ่า หนุนท่องเที่ยว
วันนี้ (29 สิงหาคม 2566) หาน จื้อเฉียง (Han Zhiqiang) เอกอัคราชฑูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมด้วย อัคราชฑูต อู๋ จื้ออู่ (Wu Zhiwu) และคณะเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ปานปรีย์ พหิทธานุกร จักรพงษ์ แสงมณี และ สรัสนันท์ อรรณนพพร ร่วมพบปะด้วย

เศรษฐาฯกล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญต่อนโยบายการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และในโอกาสนี้ มีการหารือถึงแนวทางการผ่อนปรนมาตรการและเงื่อนไขการทำวีซ่าเข้าประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนระหว่างสองประเทศก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี
โดยทาง ท่านเอกอัคราชฑูต หาน จื้อเฉียง กล่าวว่า ไทยเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic partner) ที่สำคัญ โดยจีนพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย พร้อมกับกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ร่วมกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
นายกฯคนใหม่ยันกินข้าวกับเจ้าสัวไม่เอื้อประโยชน์
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประขุม สส. พรรคเพื่อไทย ว่ากรณี ไปร่วมรับประทานอาหารกับกลุ่มนายทุนใหญ่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 ส.ค.66 จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลใหม่อาจจะมีนโยบายเอื้อกลุ่มทุนนั้น ขอชี้แจงว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ แต่ไม่ขอตอบกระแสดราม่า เพราะมองว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเอง และกลุ่มคนที่ไปพบ หลายคนในภาพมีความหวังดีกับประเทศ ไม่มีการขอ หรือเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ พูดคุยเรื่องปัญหาบ้านเมือง และสิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำ

ไม่มีอะไรมายืนยันว่ามาขอให้เอื้อกับบริษัทของกลุ่มนายทุนเลย ทุกคนหวังดีกับประเทศ และยังให้กำลังใจ เข้าใจขีดจำกัดในการตั้งรัฐบาล โดยเมื่อคืนไปเพื่อรับฟังความคิดเห็น ภาคธุรกิจก็ขอให้รัฐบาลขับเคลื่อนส่วนไหนยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย รอคราวหน้าชัดเจนแล้วค่อยบอก
หลังจากนี้จะลงพื้นที่พบปะประชาชนต่างจังหวัดมากขึ้น ศุกร์นี้จะมีภารกิจไปต่างจังหวัด และหากไม่จำเป็น จะไม่ไปต่างประเทศ จะไปลงพื้นที่ทุกอาทิตย์ ขอให้มั่นใจว่าอะไรที่ทำได้ก็จะทำ
ส่วนการประชุมพรรคได้มีการพูดคุยในเรื่องคณิตศาสตร์พื้นฐานว่า พรรคเพื่อไทยมีกี่เสียง เหตุผลความจำเป็นอย่างไร ซึ่งทุกคนมีความสามัคคีกันดี พร้อมขอบคุณคณะเจรจาที่ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะทำให้บ้านเมืองเจริญ
“สุทิน” ไม่ชัวร์ได้นั่งกลาโหม แต่ได้เป็นรัฐมนตรีแน่
สุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ เดินทางมายังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อส่งประวัติของตัวเองเพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้อง หลังจากนำเอกสารขึ้นไปส่งเรียบร้อยแล้วและลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจำนวนมากที่มายืนรอเพื่อทำข่าวว่า วันนี้รู้แต่ว่า ตนเป็นหนึ่งใน 35 ชื่อ ที่เป็นรัฐมนตรี ได้ขนาดที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังไม่มั่นใจ เป็นเพียง ข่าว และวันนี้ตนมายื่น โดยไม่ได้ระบุตำแหน่ง

เมื่อถามว่า ถ้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความพร้อมไปทำงานร่วมกับทหารหรือไม่ สุทินระบุว่า พร้อมทำงานทุกกระทรวง และตนมีความตั้งใจดี มีร่างกายแข็งแรง สู้งานได้ ตนทำงานได้ทุกรูปแบบ ทุกบุคคลิก
เมื่อถามว่านโยบายที่หาเสียงเกี่ยวกับกองทัพไว้จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างไรนั้น นายสุทิน ระบุทุกนโยบายเราต้องทำได้ช้าหรือเร็วต้องดูความเป็นจริงและองค์ประกอบ
ตนมองว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้ จากคนในกระทรวงกลาโหม และตั้งทีมงาน ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งใครเอาไว้ ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ และให้รู้ชัดเจน ว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด แล้วค่อยหาทีมงานแต่ยอมรับว่า มีอดีตทหารที่พูดคุยด้วย ซึ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกัน แต่ไม่ได้คุยอะไรมากมายเพราะทุกคนก็ไม่มั่นใจ
“พวงเพ็ชร” ส่งประวัติให้ สลค.ตรวจสอบ พร้อมทำงานทุกตำแหน่ง
วันนี้ (29 ส.ค.) พวงเพ็ชร ชุนละเอียด นำประวัติและเอกสารมามอบให้กับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ หลังเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ถูกเสนอเป็นรัฐมนตรี ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นตำแหน่งใด และยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ซึ่งหากได้รับมอบหมายก็พร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ในทุกตำแหน่ง

หากได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจริง ภารกิจแรกคือดูแลสื่อมวลชน และทำหน้าที่ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ สำหรับ คุณสมบัติที่ตนเองได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อของรัฐมนตรีนั้น คาดว่าเป็นเพราะชอบทำงานเบื้องหลัง ประสานงานเก่ง และสามารถทำงานได้ทุกอย่าง ตามที่ได้รับมอบหมาย อีกทั้งจะเดินหน้านโยบายของพรรคให้ลุล่วง
เมื่อได้มีการพูดคุยกับธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เนื่องจากเป็นน้องชายที่รักและสนิทกันมายาวนาน โดย หากนายธนกรมีสิ่งใดที่อยากให้สานต่อก็ยินดีที่จะทำ ส่วนกระแสข่าวเรื่องตำแหน่งต่างๆ ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่จบดี แต่เชื่อว่าจะจบภายในวันนี้
“ปชป.” ยังวุ่นไม่เลิก สั่งสอบคนทำประชุมพรรคล่ม
ผู้สื่อขาวรายงานว่าวันนี้ (29 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนสาขาพรรคประชาธิปัตย์ 4 ภาคทั่วประทศ ประกอบด้วย ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือภาคกลาง และภาคกทม. ยื่นหนังสือถึงรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผ่าน เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้มีการลงนามจากสมาชิกทั่วประเทศ ประมาณ 100 คน เพื่อขอให้พรรคตั้งกรรมการตรวจสอบและลงโทษกรรมการ สมาชิกและตัวแทนเขตที่เป็นมูลเหตุให้ การประชุมวิสามัญ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม แล้ววันที่ 6 สิงหาคมล่ม ในการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

โดยเฉพาะครั้งที่ 2 ซึ่งได้แนบหลักฐาน ที่ตัวแทนเขตสมาชิกพรรค หรือ โหวตเตอร์ เดินทางไปที่สปป. ลาว ในวันประชุมวิสามัญ วันที่ 6 สิงหาคม แล้วกลับมาประชุมไม่ทัน จนเป็นมูลเหตุให้องค์ประชุมล่ม เนื่องจากสร้างความ เสื่อมเสียงบประมาณและความแตกแยก ซึ่งเป็นการจงใจทำให้พรรคเสียหายเนื่องจากสมาชิกรับทราบกำหนดการประชุมอยู่แล้ว
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประชุม 2 ครั้ง ประเมินมูลค่าได้นับ 10 ล้านบาท เป็นงบประมาณจากภาษีประชาชนที่บริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหลายล้านบาทต่อปี รวมถึงค่าสมาชิกพรรครายปี การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ส่งผลให้พรรคถูกวิพากษ์วิจารณ์ นำความเสื่อมมาสู่พรรคประชาธิปัตย์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงขอให้กับหัวหน้าพรรคตั้งกรรมการสอบในเรื่องนี้