HomeBT Newsความเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ 24-27 ก.ค.66

ความเคลื่อนไหวรอบสัปดาห์ 24-27 ก.ค.66

เงินบาทพลิกแข็งค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้น หลังผลการประชุมเฟด

  • เงินบาทแกว่งตัวในกรอบอ่อนค่า ก่อนจะพลิกแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังตลาดประเมินว่า เฟดใกล้จบรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปที่กรอบ 5.25-5.50% ตามคาดในการประชุม 25-26 ก.ค. ที่ผ่านมา
  • SET Index แกว่งตัวกรอบแคบก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดใกล้ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น


สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- Advertisement -

เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าในช่วงต้นสัปดาห์ตามจังหวะขายสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ตลาดยังคงรอติดตามปัจจัยทางการเมืองของไทยอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี เงินบาทเริ่มดีดตัวกลับมาแข็งค่าในช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีปัจจัยบวกบางส่วนจากตัวเลขการส่งออกของไทยเดือน มิ.ย. ที่แม้จะยังคงหดตัวลง แต่ก็เป็นการหดตัวที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด เงินบาทเพิ่มช่วงบวกต่อเนื่องหลังการประชุมเฟด โดยแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย แม้ว่า Fed จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% เนื่องจากผลการประชุมเป็นไปตามที่ตลาดคาด และตลาดยังคงไม่ได้ให้น้ำหนักมากนักกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี แม้ท่าทีของประธาน Fed จะยังคงเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในระยะข้างหน้าเพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อก็ตาม

ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,285 ล้านบาท แต่มีสถานะ Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 193 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 214 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้ที่หมดอายุ 21 ล้านบาท)

สัปดาห์ถัดไป (31 ก.ค.-4 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) (2 ส.ค.) สถานการณ์การเมืองไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI/ISM) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ก.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน

นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางออสเตรเลีย รวมถึงดัชนี PMI เดือน ก.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ปี 2566 อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นก่อนปิดหยุดยาว ทั้งนี้หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบเกือบตลอดสัปดาห์ระหว่างรอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศและผลการประชุมของ Fed อย่างใกล้ชิด ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์ โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาน่าผิดหวัง

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อนปิดหยุดยาวตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากตลาดประเมินว่า Fed ใกล้จะยุติวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว แม้ว่า Fed จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. พร้อมส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกก็ตาม

ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,543.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.92% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,269.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.68% มาปิดที่ระดับ 466.03 จุด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (31 ก.ค.-4 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,520 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,555 และ 1,570 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม กนง. (2 ส.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศและผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือน ก.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค. (เบื้องต้น) และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน มิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนดัชนี PMI เดือน ก.ค. ของจีน ญี่ปุ่นและยูโรโซน

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News