“เอกนัฏ” ยันเก้าอี้ ครม. “รทสช.” จบแล้ว แย้มมีคนนอก
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า การประชุมกรรมการบริหารพรรค ครั้งสุดท้ายได้มอบ อำนาจให้กับตนและพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคไปเจรจารวมถึงการคัดสรรตำแหน่งที่เหมาะสม ส่วนการประชุมพรรคในวันนี้จะได้แจ้งรายชื่อบุคคลที่ได้รับพิจารณาเป็นรัฐมนตรีของพรรค

เมื่อถามว่า ได้มีการส่งรายชื่อไปแล้วหรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติกรรมการบริหารพรรค แม้ว่าจะมอบอำนาจให้ตนและนายพีระพันธุ์ พิจารณา แต่ตนก็มอบให้หัวหน้าพรรคเป็นคนส่งรายชื่อแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหัวหน้าพรรคคงจะมีการสื่อสารในเรื่องของรายชื่อไปแล้ว
เมื่อถามว่าชื่อของ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ไม่รับตำแหน่งใช่หรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า การพิจารณาคัดสรรตำแหน่งไม่เคยเปลี่ยน และที่มีข่าวว่ามีการชักเข้าชักออกรายชื่อนั้นไม่เป็นความจริง เพราะมีการตัดสินใจด้วยเหตุผลหลักเกณฑ์ตั้งแต่ต้น เพียงแต่ผู้รับผิดชอบไม่ได้เปิดเผยข้อมูล เพราะช่วงระหว่างเจรจาและส่งข้อมูล ได้คุยกันไว้ว่าต้องพยายามรักษาทุกอย่างให้เป็นความลับและในจำนวน 4 คนก็อาจจะมีคนนอกด้วย แต่ถ้าเราไปตอบสื่อฯ จะทำให้เสียหายขอให้มีการเจรจาให้ลงตัวก่อน และส่งชื่อเป็นทางการ
“สุชาติ” อำลาเก้าอี้ รมว.แรงงาน ขอรัฐบาลใหม่สานงานต่อ
วันนี้ (28 ส.ค.)สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ในการอำลาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ และศาลพ่อปู่ชินพรหมมา เนื่องในโอกาสอำลาตำแหน่ง โดยมี บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่โถงด้านล่างกระทรวงแรงงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงานเสร็จสิ้นแล้ว สุชาติได้รับมอบดอกไม้พร้อมพบปะพูดคุยด้วยความเป็นกันเองกับคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยแต่ละหน่วยงานต่างมีป้ายข้อความให้กำลังใจ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความผูกพันที่ข้าราชการกระทรวงแรงงานพร้อมใจกันแสดงออกต่อรัฐมนตรีสุชาติ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาวบ้านตัวแทนชุมชนแฟลตดินแดง ได้เดินทางมามอบกระเช้าสิ่งของ และดอกไม้ให้กำลังใจ เนื่องจากในช่วงโควิดนายสุชาติได้นำมาตรการต่างๆ จากรัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวชุมชนดินแดงได้ก้าวพ้นวิกฤติ ขณะเดียวกันมีผู้นำสหภาพแรงงานต่างๆ เดินทางมาร่วมมอบดอกไม้ให้ขอบคุณ และให้กำลังใจนายสุชาติ ที่เป็นรัฐมนตรีในดวงใจช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ก้าวพ้นวิกฤติโควิดด้วยมาตรการต่างๆ จากรัฐบาลและกระทรวงแรงงานด้วยเช่นกัน
สุชาติกล่าวถึงนโยบายที่ตนเคยทำเอาไว้และต้องการให้มีการขับเคลื่อนต่อขณะพบปะกับข้าราชการ ผู้นำสหภาพแรงงาน และชาวบ้านที่มาให้กำลังใจเพื่อทำให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น การผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ข้อ ให้แล้วเสร็จ โรงพยาบาลประกันสังคม โรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อความภาคภูมิใจของผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น อะไรที่เป็นนโยบายที่ดี และเกิดประโยชน์กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานก็อยากให้ได้มีการได้สานต่อเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
“วันนอร์” ชี้สภาฯต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน หากก้าวไกลไม่เป็นต้องสละสิทธิ์
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการนัดแถลงนโยบายรัฐสภาต่อรัฐสภา วันที่ 8 ก.ย. ว่า ตนยังไม่ได้รับการประสาน แต่หากรัฐบาลแจ้งมา ตนพร้อมนัด และแจ้งให้ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายรับทราบ เพื่อกำหนดกรอบการอภิปราย

วันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ซึ่งขณะนี้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกลปฏิเสธรับตำแหน่งดังกล่าว ว่า ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับของที่ประชุมสภาฯ กำหนดให้หัวหน้าพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน และไม่ได้เป็นประธานสภา หรือรองประธานสภา ให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งต้องเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ ด้วย หากพรรคก้าวไกล มีจุดประสงค์ต้องการดำรง
ตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ต้องแจ้งเพื่อจะสละสิทธิ์ให้กับพรรคที่เป็นฝ่ายค้านลำดับรองลงมา ตามข้อบังคับรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ เป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ ปปช. รวมทั้งคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่าพรรคอันดับสองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ในตอนนี้นั้นไม่มีหัวหน้าพรรค โอกาสที่ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจะหล่นไปถึงพรรคที่สามนั้นมีหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พรรคที่รองลงมาก็ต้องให้หัวหน้าพรรคซึ่งเป็น สส. เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ถ้าไม่ใช่หัวหน้าพรรคก็ไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ ดูได้จากครั้งที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน เพื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าพรรคที่มี สส.หนึ่งเสียงสามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้หรือไม่ หรือจะหยุดไว้ที่พรรคอันดับสอง เนื่องจากพรรคอันดับหนึ่งไม่รับ ประธานสภาฯกล่าวว่า ต้องเรียงลำดับ หากพรรคที่มีเสียงมากที่สุดที่เป็นฝ่ายค้าน ไม่ขอเป็นผู้นำฝ่ายค้านเพราะมีตำแหน่งตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าไม่เป็นประธานสภา หรือรองประธานสภา ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านนั้นก็ต้องให้พรรคลำดับถัดไปดำรงตำแหน่งต่อไป
ม็อบเกษตรกรบุก พปชร. หนุน “ธรรมนัส” นั่งว่าการเกษตร
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และอรรถกร ศิริลัทธยากรสส.ฉะเชิงเทรา รับหนังสือจากกลุ่มเกษตรกร และได้รับฟังปัญหาเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขต่อไป โดยยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพี่น้องชาวเกษตรกร กล่าวแสดงเจตนารมและจุดยืน ของชาวเกษตรกรที่ต้องการยื่นหนังสือในวันนี้เพื่อมาให้กำลังใจ และมองว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เหมาะสมที่จะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เพราะที่ผ่านมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำหน้าที่ได้ดีและเชื่อมั่น แม้อาจจะยังทำงานไม่เต็มที่ และขอยืนยันไม่ควรให้ตำแหน่งนี้ไปอยู่พรรคอื่น ไม่เว้นแต่พรรคเพื่อไทย จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีให้พรรคอื่นไม่ได้ ดังนั้น ครั้งนี้หากได้มานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายไผ่ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในคณะเจรจาจัดตั้งรัฐบาล จึงยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องกังวล ส่วนเรื่องนโยบายเกษตรเป็นสิ่งที่เราพูดคุยกันทุกพรรค ให้ชาวเกษตรกรสบายใจได้ และในส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยทำเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องน้ำ , โฉนดทำกิน , ที่ดินส.ป.ก. และ เรื่องนิคมอุตสาหกรรม ที่จะเปลี่ยนมาเป็นโฉนดเพื่อให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปากได้ก็จะนำมาขับเคลื่อนให้สำเร็จ แม้จะขรุขระนิดหน่อยแต่เชื่อว่าจะจบลงด้วยดี
“ชาดา” พร้อมทำหน้าที่ ครม.ขอทำงานเป็นทีม
ที่พรรคภูมิใจไทย ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีมีชื่อติดอยู่โผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ไม่ทราบ ขณะนี้อยู่ะหว่างพรรคจะดำเนินการเรื่องนี้

พร้อมย้ำว่ากรณีมีชื่อ ปรากฎเป็นรมช.มหาดไทย พรรคได้มีการทาบทามแล้วหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ยังไม่มีอะไร ส่วนมากสื่อมวลชนตั้งให้
เมื่อถามว่า หากได้เป็น รมช.มหาดไทย ก็พร้อมทำงานใช่หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า นักการเมืองทุกคนพร้อมที่จะทำงาน สส.พรรคภูมิใจไทย 71 คน เป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน เพราะพรรคคัดกรองคนที่มีศักยภาพ พร้อมทำงานทุกคน และทุกตำแหน่ง
ส่วนเรื่องความถนัดงานด้านไหน ชาดา กล่าวว่า ตนถนัดแทบทุกด้าน แต่การทำงานก็ไม่มีใครเก่งคนเดียวในรัฐบาลได้ ขอทำงานเป็นทีมร่วมกับคนอื่นๆเพื่อให้เกิดผลสำเร็จและเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด