สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ประเมินความเสียหายของสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก คาดเสียหายอย่างน้อย 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 700,000 ล้านบาท
Gloria Guevara ประธาน WTTC กล่าวว่า ตัวเลขความสูญเสียข้างต้นเป็นผลมาจากการศึกษาร่วมกับบริษัทวิจัย Oxford Economics โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ที่ทั่วโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ก่อนหน้า อย่าง โรคซาร์ส และโรค H1N1 รวมถึงประเมินจากการที่นักท่องเที่ยวชราวจีนงดการเดินทางในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาด
สำหรับตัวเลขมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ เป็นตัวเลขความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกรณีที่ดีที่สุด คือสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ได้ในเร็ววัน และทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนหายไปจากทริปการเตินทางต่างประเทศราว 7%
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขความเสียหายอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แตะระดับ 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.55 ล้านล้านบาท หากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา กินเวลาเท่ากับโรคซาร์ส คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2002 – เดือนกรกฎาคม ปี 2003
ขณะเดียวกัน ความเสียหายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกอาจพุ่งทะยานสูงขึ้นถึง 73,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 2.3 ล้านล้านบาท หากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กินระยะเวลาแพร่ระบาดนานกว่าโรคซาร์ส
รายงานระบุอีกว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประเทศที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนเป็นหลัก อย่าง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มาเก๊า กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และไทย โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน ถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มีการใช้จ่ายต่อหัวมากที่สุด เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การการค้าโลก (WTO) ได้เตือนให้รัฐบาลนานาประเทศใช้หลีกเลี่ยงการใช้มาตรการที่จะทำขัดขวางการเดินทางและการค้าโดยไม่จำเป็นสมควร คือ สามารถออกมาตรการเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเหมาะสม แต่ต้องไม่เข้มงวดจนเกินไปจนกระทั่งกลายเป็นปัจจัยกดดันขัดขวางการค้าและการท่องเที่ยว
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
หุ้นโลกร่วงไม่หยุด นักลงทุนคาดเศรษฐกิจโลกเสี่ยง”ถดถอย”
ยอดติดเชื้อโควิด-19 เกาหลีใต้ กระฉูด ทะลุ 2,000 ราย