นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วิเคราะห์ถึงกรณีสหรัฐตัดจีเอสพี.สินค้าไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า คิดเป็นมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้าน ชี้เกิดจากปัญหาของสหรัฐในเรื่องขาดดุลการค้า มากกว่าข้ออ้างเรื่องปัญหาแรงงาน
นายอลงกรณ์ ระบุว่าจากตรวจสอบสาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐโดยประธานาธิบดีทรัมป์ตัดจีเอสพี (GSP) ไทยบางรายการมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้าน มีผลอีก 6 เดือนข้างหน้าแล้วโดยอ้างเรื่องปัญหาแรงงานนั้นน่าจะเป็นข้ออ้างหาเหตุมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้สหรัฐพอใจการแก้ไขปัญหาแรงงาน จนยกฐานะไทยจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2
ส่วนปัญหาประมงก็มอบธงเขียวให้ไทยและยกเป็นตัวอย่างประเทศที่ประสบความสําเร็จในการต่อต้านประมงผิดกฎหมายไอยูยู (IUU)
เท่าที่ผมเคยเจรจากับผู้แทนการค้าของสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์:USTR) สมัยรัฐบาลโอบามาพอประเมินได้ว่าสาเหตุหลักน่าจะเหลือแค่ 3 กรณี
- สหรัฐตัดจีเอสพีเพราะรายการสินค้ากลุ่มที่ถูกยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีมียอดส่งออกไปสหรัฐเกินพิกัดกติกาจีเอสพี แบบนี้เรียกว่าตัดจีเอสพีตามเนื้อผ้า ก็ยังเจรจาขอผ่อนปรนออกไปก่อนหรือลดรายการที่ตัดสิทธิพิเศษบางรายการโดยอาศัยความเป็นมิตรพิเศษตามสนธิสัญญาเอมิตีและการค้า (Treaty of Amity and Commerce)
- สหรัฐค้าขายสู้ไม่ได้เสียเปรียบดุลการค้าไทยหลายแสนล้านเลยใช้มาตรการยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีกับกลุ่มสินค้าไทยที่ได้สิทธิประโยชน์จีเอสพีเช่นเดียวกับการที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและสหภาพยุโรป หากเป็นเหตุผลนี้ก็ยังมีโอกาสเจรจาต่อรองอีก6เดือน
- สหรัฐต้องการใช้การตัดสิทธิพิเศษจีเอสพีเพื่อต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบหมูไปไก่มา เช่น การขอให้ไทยเปิดให้นำเข้าเนื้อหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐ หรือขอให้ไทยทบทวนการแบนสารพิษไกรโฟเซตที่ทั้งทางการสหรัฐและหอการค้าสหรัฐไม่เห็นด้วยเพราะกระทบผลประโยชน์ของบริษัทอเมริกัน
ถ้าเป็นเหตุผลหลังสุดคงยากที่ทางการไทยจะยอมอ่อนข้อเพราะเป็นเรื่องสุขภาพของคนไทย ด้วยสาเหตุเช่นนี้ ทางการสหรัฐควรทบทวนตัวเองมากกว่าเรียกร้องให้ทางการไทยทบทวน หากยังคิดจะเป็นมิตรที่ดีกับคนไทยและประเทศไทย อย่าใช้มาตรการจีเอสพีกดดัน แบบนี้เป็นอันขาด
Thai exports will suffer from GSP cut decision by US President Trump