หากพูดถึงการ Disruption ต้องบอกว่าทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทยต่างได้รับผลกระทบ แม้กระทั่งเรื่องของพลังงานที่ปัจจุบันการใช้พลังงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานเชื้อเพลิงที่นับวันถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ หากยังคงใช้แบบนี้สักวันพลังงานก็คงจะหมดไป ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาวิธีในการปรับตัวที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โครงการ “รวมพลังหาร2” โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงานได้ผลักดันให้คนไทยตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัดและให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด มุ่งให้ประชาชนทุกคนมีวินัยคิดก่อนใช้ทุกครั้ง โดยปีนี้โครงการรวมพลังหาร 2 ยังคงเห็นความสำคัญพร้อมทั้งต้องการยกระดับให้สอดคล้องกับกระแสสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นพร้อมทั้งยกระดับแนวคิดสู่แนวทางการลงมือปฏิบัติและประหยัดได้จริงเห็นผลแน่นอนกับนวัตกรรมการประหยัดพลังงานในรูปแบบใหม่
สนพ. ได้ทำการสำรวจพบว่ากลุ่มคนที่ใช้สื่อออนไลน์ต่อวันมากที่สุดได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 25 – 39 ปี และเป็นกลุ่มหลักในการขับเคลื่อนสังคมในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันและนิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจาก 4 ช่องทางหลักได้แก่ Line 30.95%, Facebook 28.01%, YouTube 14.55% และ Instagram 14.30% โดยมีแนวคิดแบบใหม่ในการเลือกใช้นวัตกรรมในการประหยัดพลังงาน โครงการฯ จึงปรับกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลสูงบนสังคมออนไลน์
สำหรับ “นวัตกรรมหาร2 ลองเลย” พูดถึงไอเดียการใช้นวัตกรรมช่วยประหยัดพลังงานในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เพียงแค่ลองหันมาเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเก่าแล้วหันมาใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีอยู่รอบตัวทั้งการทำงานแบบ Smart lifestyle ด้านการคมนาคมแนว Smart Mobility และที่อยู่อาศัยในแนว Smart Living ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายประหยัดทั้งพลังงาน เวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นนวัตกรรมประหยัดพลังงานที่สามารถเริ่มต้นทำได้จริง ใช้จริงและประหยัดจริง
อย่างการทำงานที่บ้าน (Work at Home) ที่ไม่ได้จำกัดอยู่ในอาคารสำนักงาน (Office) อีกต่อไป การใช้พื้นที่การทำงานร่วมกันที่มีความสะดวกสบาย รวมทั้งบรรยากาศที่ดีกว่าสำนักงานส่วนตัว หรือการประชุมงานต่างๆผ่านทางออนไลน์ (VDO Conference) นอกจากจะประหยัดเวลาในการเดินทางยังได้ลดการใช้พลังงานอีกด้วย ซึ่งผลตอบรับจากแคมเปญที่ผ่านมาคนให้ความสนใจหันมาลดการการใช้พลังงานกันมากขึ้นเนื่องจากคอนเทนต์ที่มีความสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่และสื่อสารได้อย่างตรงจุดช่วยกระตุ้นทำให้คนเปิดใจได้ง่ายและลงมือปฏิบัติทันที