HomeBT News“เน็กซัส”ชี้อสังหาฯครึ่งปีหลังยังทรงตัว ยอดเปิดโครงการวูบ 30%

“เน็กซัส”ชี้อสังหาฯครึ่งปีหลังยังทรงตัว ยอดเปิดโครงการวูบ 30%

“เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้” ประเมินตลาดอสังหาฯไทยยังทรงตัว หลายค่ายชะลอแผนเปิดโครงการ ตั้งแต่ต้นปียอดเปิดโครงการใหม่ลดลง 30% ชี้โครงการรถไฟฟ้าเป็นปัจจัยบวกช่วยกระตุ้น แนะรัฐเปิดโอกาสตลาดบ้านมือสองหนุนช่วงโค้งสุดท้าย

นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์คาดว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ตลาดยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว โดยพบว่าในไตรมาสที่ 3 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ประมาณ 10,500 หน่วย และในช่วงที่เหลือของปีจะมีโครงการใหม่เปิดตัวอีกไม่เกิน 10,000 หน่วย โดบมีหลายโครงการที่พัฒนาแล้วยังชะลอดูว่าภาพรวมตลาด และหากประเมินว่าตลาดยังทรงตัว ก็มีแนวโน้มที่จะขยับแผนการเปิดไปเป็นปีหน้า

“จากภาวะตลาดที่ยังทรงตัวส่งผลให้ยูนิตใหม่ ทั้งปีมีไม่เกิน 45,000 หน่วย ที่ผ่านมาข้อมูลจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ตั้งแต่ต้นปีที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์จะเปิดตัวโครงการอีก 290 โครงการ ทั้งคอนโด และแนวราบ แต่ในความเป็นจริงพบว่า ขณะนี้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 30%”

สำหรับด้านราคาคาดว่า ตลอดปีนี้ ราคาคอนโดมิเนียมจะปรับตัวขึ้นจากปีที่แล้วไม่เกิน 5-6% ในขณะที่ความต้องการยังคงมาจากผู้ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริงที่มีกำลังซื้อเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคอนโดมิเนียมที่ขายดี และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ จะอยู่ที่ช่วงราคา 2-5 ล้านบาท  สำหรับคอนโดมิเนียมที่ราคาต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท กลุ่มนี้ถึงแม้จะมีความต้องการมาก แต่หนี้สินครัวเรือนและเครดิตของผู้กู้เอง ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ สำหรับตลาดลักชัวรี่และไฮเอนด์ การขายเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยกลุ่มผู้ซื้อ คือคนต้องการอยู่จริงเป็นหลัก การโอนกรรมสิทธิ์ไม่มีปัญหามากนักเนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว

- Advertisement -

สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายของปี ยังไม่เห็นปัจจัยบวกชัดเจน แต่จะเห็นชัดในแง่ของสาธารณูปโภค ได้แก่ การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง – หลักสอง ที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนจากฝั่งธนบุรีสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย เมืองขยายตัวออกไป เปิดโอกาสให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวออกไปในทำเลใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดทำเลในการทำธุรกิจการค้า และการอยู่อาศัยเกิดใหม่มากขึ้น

สุดท้ายทำเลที่ดีอีกที่หนึ่งน่าจะเป็น บริเวณรัชดา ลาดพร้าว ที่มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อสายสีเขียวที่เพิ่งเปิดใหม่ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย และเป็นทำเลรอบใจกลางเมือง ที่มีแหล่งช้อปปิ้งและสถานศึกษา สวนสาธารณะ อย่างไรก็ตามราคาที่ดิน และคอนโดบริเวณนี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเช่นกัน

ขณะที่ กระแสที่จะมาแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คือ โครงการประเภทมิกซ์ยูส ที่น่าจะมาแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ข้ามต่อไปจนถึงปีหน้าและอนาคต เนื่องจากความสะดวกสบาย ในแต่ละส่วนที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

“โครงการสามย่านมิตรทาวน์ที่เพิ่งเปิดตัวไป ถือว่ากระแสกำลังมาแรง เพราะผู้พัฒนาโครงการได้ใส่สิ่งอำนวยความสะดวก และร้านค้าเข้าไปอย่างครบครัน ทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มคนในย่านนั้น และโครงการที่คล้าย ๆ กันในละแวกเดียวกันก็เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น โครงการจามจุรีสแควร์ ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน อนาคตที่น่าสนใจก็เช่น I’m Chinatown , ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค หรือ เมกะโปรเจค อย่าง  One Bangkok เป็นเทรนด์ในอนาคตแน่นอน”

นอกจากนี้มองว่า การที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งขึ้น ในแง่เงินลงทุนจากต่างชาติจะมีการชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการปรับแผน เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยเช่นเดียวกัน

สำหรับตลาดบ้านมือสองเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ ยังคงไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลมากนัก ดังนั้นหากรัฐมีมาตรการเข้ามาช่วย เช่น เรื่องภาษีโอนหรือภาษีธุรกิจเฉพาะของบ้านมือสองก็จะช่วยให้ตลาดเติบโตได้ดีมากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News