“เอสเทลล่า” ชี้ ผู้บริโภคที่มีบ้านตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป นิยมใช้โคมไฟหรูราคาแพง มั่นใจยอดขายปีนี้ตรงตามเป้า 100 ล้านบาท

ภัทรจิตรา พิชญวิศิษฏ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเทลล่า เพรสทิจ จำกัด กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวลง แต่ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่าง บ้านเดี่ยว ที่มีราคาสูงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโคมไฟระย้าแบรนด์ดังจากยุโรปเป็นจำนวนถึง 10 แบรนด์ โดยทุกแบรนด์ทำจากวัสดุคริสตัลแท้ มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายโคมไฟยังจำหน่ายได้ต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่า ยอดขายปีนี้จะเป็นไปตามเป้า 100 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์ปีหน้า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีก 20-30% หลังจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทยและเปิดตัวแบรนด์แอสโฟร์อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ โดยจุดเด่นของแบรนด์ดังกล่าว ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตคริสตัลและโคมไฟระย้าชื่อดังจากประเทศอียิปต์ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในแถบยุโรป และหากเทียบราคากับแบรนด์คู่แข่งจากประเทศออสเตรีย อย่าง สวารอฟสกี้ ที่ทางเอสเทลล่าก็จำหน่ายภายในร้านด้วยเช่นกัน แบรนด์แอสโฟร์ยังมีราคาถูกกว่าถึง 3 เท่า ดังนั้น การนำเข้าแบรนด์ดังกล่าวจึงน่าจะเป็นอีก 1 ทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อโคมไฟระย้าทำจากคริสตัลแท้ไปประดับตกแต่งบ้านได้
ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเทลล่า เพรสทิจ จำกัด ยังบอกด้วยว่า เตรียมทุ่มงบ 10 ล้านบาทในปีหน้าเพื่อเปิดตัวร้านจำหน่ายโคมไฟระย้าเฉพาะแบรนด์แอสโฟร์ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ นอกเหนือจากการมีสาขาจำหน่ายโคมไฟของทุกแบรนด์ที่ห้างคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ย่านเลียบเอกมัย-รามอินทรา และอีก 1 สาขา ในย่านราชพฤกษ์ ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งในการจำหน่ายสินค้าตามย่านที่มีโครงการบ้านเดี่ยวราคาแพง ตั้งแต่ 10-50 ล้านบาทขึ้นไป ถือเป็น 1 ในกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงได้ตรงตามเป้าหมาย




