“เศรษฐา” ปลุก สส.เพื่อไทย ค้นซอฟต์พาวเวอร์ พื้นที่เพิ่มรายได้ชุมชน
วานนี้ (24 ตุลาคม) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ในการประชุม ส.ส.พรรค เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งว่านโยบายซอฟต์เพาเวอร์ด้วยว่า นโยบายนี้จะขับเคลื่อนโดย แพทองธาร ซึ่งถือเป็นโยบายใหญ่พอๆ กับดิจิทัลวอลเล็ตเลยก็ว่าได้ ถือเป็นวาระของพรรค พท. และอยากจะขอร้องอ้อนวอน ส.ส.ของพรรคว่าหากใครมีไอเดีย หรือรู้จักเพชรในตมตรงไหน อยากให้ขุดขึ้นมานำเสนอ

เศรษฐากล่าวด้วยว่าตนมีความกังวลใจการเลือกตั้งนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รวมทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ซึ่งเป็นการเมืองท้องถิ่นที่ส่งเสริมการเมืองระดับชาติ ดังนั้น ทุกคนในพรรคควรจะให้ความสนใจและมียุทธศาสตร์ให้ชัดเจน หวังว่าตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
เมื่อมีการเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะเป็นวาระสำคัญของพรรค โดยตรงนี่หากมัวแต่ไปทำงานในซีกรัฐบาล ถ้าลืมเรื่องการเลือกตั้ง อบจ.และ อบต. ผมว่ามันมีเป็นสัญญาณไม่ดีสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหญ่สนามใหญ่ครั้งต่อไป
วิปรัฐบาลชี้เสนอกม.นิรโทษกรรมต้องดูเนื้อหาให้เหมาะสม
อดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันชัย สอนศิริ สว. ออกมาจี้รัฐบาลให้ออกกฎหมายเรื่องนิรโทษกรรมโดยมองว่าการสร้างความปรองดองว่ามีความล่าช้า ว่า เคารพความเห็นของวันชัย แต่เรื่องนี้นิรโทษกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทางรัฐบาลอาจจะมีความคิดที่จะเสนอกฎหมายประกบ

สำหรับตนก็มีนิรโทษกรรมเหมือนกันตั้งแต่ยุคสมัยที่ต่อสู้ แต่ฝ่ายรัฐประหารเมื่อปฏิวัติเสร็จก็นิรโทษกรรมตัวเอง แต่ละพรรคก็มีความคิดเห็นตรงกันว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสม และคาดว่าสมัยหน้าคงจะมีการนำเรื่องนิรโทษกรรมเข้ามาพิจารณา ซึ่งในสมัยนี้คงไม่ทัน เนื่องจากต้องดูเนื้อหาให้เหมาะสมด้วย
เมื่อถามว่า หากมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมจะรวมถึงผู้กระทำความผิดมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า รายละเอียดตนยังไม่ทราบ แต่ทุกคดีที่ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามกรอบของกฎหมายแล้วควรจะได้รับการนิรโทษกรรม
“เดชอิศม์” แจงไม่รู้จัก “เสี่ยแป้ง” เชื่อโดนดิสเครดิต
เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคและสส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวชี้แจงถึงกรณีมีภาพร่วมเฟรมกับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษชายที่หลบหนีโทษจากคดีสำคัญในภาคใต้ โดยในภาพดังกล่าวเสี่ยแป้ง นาโหนด นั่งย่อเข่ามอบพวงมาลัยให้เดชอิศม์ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามถึงความเกี่ยวพันกันในสื่อออนไลน์ ว่า ตนต้องขอชี้แจงว่า ตนเป็นลูกครึ่งสงขลา-พัทลุง เนื่องจากพ่อเป็นคนสงขลา ส่วนแม่เป็นคนพัทลุง ดังนั้นในพื้นที่ 2 จังหวัดนี้ คนส่วนใหญ่จะรู้จักตนดี

ทั้งนี้มองว่าการขุดเอาภาพนี้ขึ้นมาเผยแพร่ในสื่อ ก็สามารถมองว่าน่าจะเป็นการดิสเครดิตตน เพราะเป็นภาพที่เก่าและเหตุการณ์นี้ก็ผ่านมาราว4-5 ปีแล้ว ภาพที่ปรากฏและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั่น เป็นเหตุการณ์ที่ตนไปส่งผู้กำกับการตำรวจคนหนึ่งที่ย้ายไปเป็นผู้กำกับ สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งเหตุการณ์นี้ผ่านมาราว 4-5 ปีแล้ว และเหตุที่ตนเป็นนักการเมืองก็มักจะมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก บางคนก็มาทักทาย มาขอนั่งคุยในงานดังกล่าว
ตนนั่งร่วมงานอยู่ราว 2-3 ชั่วโมงและขอลาเจ้าภาพกลับ ส่วนความเกี่ยวพันกับนายเชาวลิดนั้น ตนยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความสนิทสนมอะไร แต่เคยเห็นกัน 2-3 ครั้งตามงานต่างๆ ในพื้นที่ ถามว่ารู้จักไหม รู้จัก ว่าเป็นใคร แต่ในระยะ3 ปีให้หลังมานี้ ตนไม่เคยพบกับบุคคลดังกล่าวเลย
“อนุทิน” พาภูมิใจไทยดูหนัง “สัปเหร่อ” พร้อมหนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีต สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สัปเหร่อ สมาชิกพรรค และทีมงานนักแสดงร่วมรับชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน

อนุทิน ให้ภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนรับชมภาพยนตร์ โดยกล่าวถึง นายสิริพงศ์ ว่าเป็นผู้อำนวยการสร้าง และเป็นผู้ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ต่างๆ ทั้งในด้านกีฬา ดนตรี และสิ่งที่เป็นความสามารถพิเศษของคนไทย ซึ่งนายสิริพงศ์อยู่เบื้องหลังประเด็นเหล่านี้มาโดยตลอด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นเรื่องความสามารถของคนไทย ทำให้คนไทยมีความภาคภูมิใจ และเป็นโอกาสที่จะทำให้เราวางแผนที่จะทำให้เราทำเรื่องซอฟพาวเวอร์ในเรื่องอื่นๆ ได้อีกเยอะ
อีกทั้ง เราประชุมพรรคทุกสัปดาห์ โดยหลังจากที่ประชุมแล้ว ก็ทราบว่า เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ให้ช่วยส่งเสริมเรื่องซอฟพาวเวอร์ โดยเราต้องใช้ผู้แทนของชาวบ้านลงไปพูดคุยอธิบายให้กับชาวบ้านได้ฟังว่าของบางอย่างที่เรานึกไม่ถึง ถ้ามันโดนคนแล้วก็จะเป็นกระแส ซึ่งในที่ประชุมพรรคก็ให้นายสิริพงศ์ช่วยทำให้ สส. ในพรรคได้มารับชมภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อพร้อมกัน
“สุพัฒนพงษ์” ลาออก สส.รทสช. มุ่งงานยุทธศาสตร์พรรค
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคว่า สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติได้แจ้งต่อที่ประชุมพรรคว่า ได้ยื่นใบลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมเป็นต้นไป สำหรับเหตุผลที่ลาออกเนื่องจากต้องการทุ่มเทเวลามาทำงานให้พรรคมากยิ่งขึ้น

สุพัฒนพงษ์ถึงแม้จะลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อ แต่ไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค ยังเป็นประธานสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรคอยู่ นายสุพัฒนพงษ์แจ้งต่อที่ประชุมว่า หลังจากนี้จะทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่
และจะใช้เวลาที่มีอยู่ทำงานให้กับพรรคมากขึ้น โดยเฉพาะการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคที่ได้รับปากกับประชาชนไว้ เพื่อขับเคลื่อนร่วมกับรัฐมนตรีของพรรคให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยต้องการใช้เวลามาทำงานให้กับพรรคมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค ตามที่รับปากกับประชาชนไว้ตอนหาเสียง
การลาออกก็ส่งผลให้ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ แม่เลี้ยงติ๊ก ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อได้ขยับขึ้นมาเป็นสส.บัญชีรายชื่อแทน จะได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานในสภาฯต่อไป