บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ชี้ ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยภาคอุตสาหกรรม จะช่วยยกระดับ เพิ่มช่องทางการขาย และรายได้ให้เกษตรกรไทย
นาย กิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคลาวด์และโซลูชัน บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวในงานสัมมนา “Business Today Forum ทรานฟอร์มเกษตรไทย ฝ่าคลื่นดิสรัปต์ เกษตรอัจฉริยะ Big Data” ว่า“เคยมีคนกล่าวว่าประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรมก็จริง แต่ยิลด์ที่ได้จากภาคเกษตรยังไม่เทียบเท่ากับครึ่งของโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก” ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรไทย
ขณะนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จนทำให้การทำธุรกิจเปลี่ยนตามไปด้วยเช่นกัน ขณะที่ภาคการเกษตรก็เปลี่ยนไปมากตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ดังนั้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการในภาคเกษตรจึงเป็นเครื่องมือแก้ไขที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
หากเรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสภาพอากาศล่วงหน้า จะเป็นเรื่องสำคัญในการทำการเกษตรเป็นอย่างมาก ซึ่งไอบีเอ็ม มีข้อมูลอยู่ทั่วโลก และมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะสามารถพยากรณ์อากาศได้อย่างละเอียด และสามารถทราบข้อมูลสภาพอากาศล่วงหน้า 15 วัน ซึ่งข้อมูลที่รับรู้ล่วงหน้านั้น จะทำให้เกษตรกรวางแผนทำเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเราสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ได้ และยังนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับ AI ได้ด้วย นอกจากนี้ไอบีเอ็ม ยังมีข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมมาเชื่อมโยงกัน และสามารถประมวลผล โดยจะเห็นข้อมูลในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการทำเกษตร หรือพื้นที่ใดเหมาะกับการให้ปุ๋ย ซึ่งจะทำให้การเพาะปลูกได้ผลเป็นอย่างดี และสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกรได้ด้วย ไอบีเอ็มมีข้อมูลที่สามารถพยากรณ์ได้ว่าเมื่อไรควรปลูกอะไร และเมื่อไรควรเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยข้อมูลดังกล่าว ยังสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยตั้งเป้าจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของประเทศเกษตรกรรมมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้กับภาคเกษตรกรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยียังจะทำให้เกษตรกรลดภาระการเป็นหนี้ได้อีกด้วย
อีกจุดหนึ่งที่สำคัญคือ บล็อคเชน หลายประเทศใช้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการนำเสนอว่าเป็นสินค้าออแกนิค แต่ต้องสามารถการันตีได้ว่าเป็นสินค้าออแกนิคจริง ๆ ดังนั้นบล็อกเชนจะช่วยตรวจสอบได้ว่าเป็นสินค้าออแกนิคจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความต้องการในตลาด โดยถ้าเรารู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ต้องการในพื้นที่ใด และช่วงเวลาใด จะช่วยวางแผนในการเพาะปลูก และทำให้มีตลาดรองรับได้อย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้เทคโนโลยีสามารถทำได้แล้ว วันนี้จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องปฏิรูปภาคเกษตรไทยด้วยการลดจำนวนคน แต่ต้องเพิ่มเครื่องมือ และระบบเทคโนโลยีเข้าไปจัดการ