“บอร์ดการบินไทย” ตีกลับแผนซื้อฝูงบิน 38 ลำ สั่งทบทวนสมมุติฐานให้สอดคล้องกับสถานกาณ์อุตสาหกรรมการบินโลก พร้อมทบทวนแหล่งเงินทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์บริษัท ด้าน “สุเมธ” ผ่านประเมินผลงาน แต่ถูกกำชับเร่งทำแผนฟื้นฟูให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
หลังจากเมื่อวานนี้(24ก.ย.) คณะกรรมการ หรือ บอร์ด การบินไทย โดยมี นาย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัท การบินไทย เป็นประธานการประชุม ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาใน 2 วาระที่สำคัญ ได้แก่ วาระการแรก จัดซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.56 แสนล้านบาท และ วาระที่ 2 คือ การประเมินผลงานของนาย สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย (ดีดี) ในรอบ 6 เดือนของปี 2562 นั้น

ล่าสุด มีรายงานว่า ในประเด็น การจัดซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 38 ลำ บอร์ดมีมติให้ฝ่ายบริหารกลับไปทบทวนสมมุติฐานโครงการจัดหาเครื่องบินใหม่อีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินโลก ที่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งทบทวนการจัดหาแหล่งเงินทุนให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในบริษัท เพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กร และเพื่อให้บริษัทสามารถก้าวผ่านวิกฤติได้โดยเร็ว โดยให้นำมาเสนอบอร์ดพิจารณาอีกครั้งภายใน 6 เดือนข้างหน้า

ส่วนวาระ ที่ 2 การประเมินผลงานของดีดี การบินไทย บอร์ด ได้มีมติให้นายสุเมธ ผ่านการประเมินผลงาน เนื่องจากนายสุเมธ มีความพยามในการดำเนินงานตามแผน แต่ผลยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศเข้ามากระทบ
“บอร์ด ได้กำชับเพิ่มเติมให้ไปจัดทำแผนการฟื้นฟูสายการบินโดยเร็ว ทั้งด้านรายได้ และการบริหารจัดการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยต้องไม่กระทบต่อการบริการ และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนด KPI เป้าหมายในการประเมินครั้งต่อไป”

นายสุเมธ มีภาระกิจหลักสำคัญ คือ ล้างขาดทุน บริษัทการบินไทยให้หมดภายในปี 2565 และตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจการบินของเอเชีย ด้านการขนส่งผู้โดยสาร ศูนย์ซ่อมบำรุง และศูนย์ขนส่งสินค้าภายในปี 2570
ส่วน สาเหตุหลักของการขาดทุนของบริษัทการบินไทย มีด้วยกัน 3 ด้าน คือ ภาระต้นทุนพลังงาน และค่าซ่อมบำรุง การใช้เครื่องบินไม่เหมาะสม และเส้นทางบินที่ไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นแผนที่จะซื้อเครื่องบินใหม่ครั้งนี้ จะต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ และเหมาะสมตามสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน