หอการค้าไทย ชี้ กรณี “โทมัส คุก” ยักษ์ใหญ่ธุรกิจท่องเที่ยวของอังกฤษล้มละลาย เป็นตัวอย่างให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องเร่งปรับตัว ป้องกันการถูก Disrupt ย้ำ “บริการดี มีคุณภาพ” คือ หัวใจสำคัญดึงดูดต่างชาติมาเที่ยวเพิ่มขึ้น

ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากกรณีบริษัท โทมัส คุก ผู้ประกอบการสายการบินและการท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 178 ปี ได้ประกาศล้มละลายจนเป็นข่าวช็อกไปทั่วโลก คล้ายกับกรณีของบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ อย่าง โกดัก ที่ก็ต้องปิดตัวธุรกิจลงเพราะล้มละลายจากการไม่ปรับตัวให้ทันต่อกระแสโลกแห่งเทคโนโลยีหรือยุคดิจิทัลเช่นกัน จึงได้เกิดสภาวะปัญหาต่อธุรกิจอย่างหนัก ที่เราเรียกกันคุ้นหูในปัจจุบันว่า “Digital Disruption”
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีมากขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อจองตั๋วเดินทางเลือกใช้พาหนะ อย่าง อูเบอร์ เพื่อความสะดวก รวมถึงจองโรงแรมที่พักต่าง ๆ ได้เอง อีกทั้งรูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เคยเที่ยวในรูปแบบทัวร์ขนาดใหญ่เป็นหมู่คณะ ได้ปรับเปลี่ยนหันมานิยมเที่ยวด้วยตัวเองหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ เพียงไม่กี่คนมากขึ้น
ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของไทย จึงจำเป็นต้องปรับตัวในการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าเป้าหมายให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุด มิฉะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะเปลี่ยนเส้นทางหันไปท่องเที่ยวยังประเทศอื่น ๆ ในแถบใกล้เคียงแทน นอกจากนี้ เรื่องของคุณภาพมาตรฐานการบริการยังถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการบริการด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ สร้างความประทับสูงให้แก่ลูกค้า จะช่วยสร้างความแตกต่างดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเลือกมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น พร้อมคาดการณ์นักท่องเที่ยวในปีหน้าจะยังคงอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 39.5 ล้านคน
