“เศรษฐา” เผยพบ “ประยุทธ์” ชื่นมื่น ฝากดูแลบ้านเมือง
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเข้าพบพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการไปเยี่ยมเยียนและเคารพตามมารยาท โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ซึ่งตนในฐานะผู้น้อยเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ไปพบและปรึกษาหารือ ซึ่งก็ได้สนทนากันและพล.อ.ประยุทธ์ ก็น่ารักพร้อมพาชมทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากเรื่องบริหารจัดการบ้านเมือง มีบางส่วนคำนึงถึงและให้ระวัง ให้ใจเย็น ให้อดทน ยึดมั่นดูแลชาติศาสน์กษัตริย์ และนโยบายอะไรดีๆ ที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำไว้ก็ให้ฝากดูแลด้วย
การพูดคุยครั้งนี้ หารือกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ วันนี้ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง แล้วก็มาดูแลบ้านเมืองให้ดี ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ก็ฝากฝังไว้
พล.อ.ประยุทธ์ได้ชมทำเนียบรัฐบาล ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงห้องที่วันเด็กไปนั่ง แต่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าท่านไม่นั่งตรงนี้ ท่านนั่งห้องเล็กอีกห้อง
พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพและได้พูดคุยกันดีแบบผู้ใหญ่ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้มีนายกรัฐมนตรี 2 ท่านได้มาพบปะคุยแลกเปลี่ยนไอเดียและฝากฝังเรื่องบ้านเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
“ประยุทธ์”อำลาสภากลาโหมฯบอกสื่อยังไม่ได้ไปไหน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกสภากลาโหมทุกท่านรวมถึงกำลังพล ที่ให้การสนับสนุนในการทำงานด้วยดี ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยไม่มีการทอดทิ้งกัน พร้อมฝากให้ทุกคนทำงานต่อไป ดูแล ประเทศชาติและประชาชน พร้อมปกป้องสถาบันหลักของชาติด้วย
ภายหลังการประชุมฯพล.อ.ประยุทธ์ ได้ถ่ายรูป และเซลฟี่ กับสื่อมวลชนอย่างชื่นมื่น ท่ามการสายฝนที่ตกหนัก พร้อมทั้งกล่าวหยอกล้อว่า “ฉันยังไม่ได้ไปไหนหรอกนะ”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 เข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ฝากดูแลทุกอย่าง ซึ่งท่านก็รับไป ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงอำนาจ ซึ่งตนพร้อมส่งมอบงานและข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ ในการบริหารราชการต่อไป เมื่อถามว่า มีงานที่คั่งค้างและฝากนายกฯคนใหม่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ท่านก็คงนำไปพิจารณาและทำต่อ อะไรที่ต้องปรับ ก็ปรับ ส่วนเรื่องสถาบันฝากแล้ว
“สมศักดิ์” ชี้โผ ครม.เริ่มนิ่งคาดจบ 100% สัปดาห์หน้า
สมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรี ในรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ว่า เท่าที่ได้ฟังจากเศรษฐา ทราบว่าาการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสร็จสิ้นในต้นสัปดาห์หน้า เพราะขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองยังไม่นิ่ง ยังไม่จบ 100%

โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมจะไปนั่งคุมแต่ละกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนงาน ตอนนี้กระทรวงใหญ่มากๆนั้น นิ่งแล้ว ส่วนกระทรวงขนาดกลางๆ ที่ยังไม่นิ่ง เพราะมีหลายพรรคที่อยากได้ตรงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าความชัดเจนที่จะไปนั่งกระทรวงไหนตอนนี้มีหรือยัง สมศักดิ์กล่าวว่ายังทราบเลย
ทั้งนี้ชื่อของสมศักดิ์นั้นมีชื่อเป็นตัวเต็งจะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาล “เศรษฐา1”
“ปดิพัทธ์” ยันไม่ลาออกรองประธานสภาฯ ชี้กฎหมายไม่ห้าม
ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ว่าตนคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านนิติบัญญัติ เพราะว่าเราเป็นเอกเทศต่อกันไม่ได้อยู่ใต้อาณัติ ซึ่งตำแหน่งประธานสภา และรองประธานสภา มาจากการเลือกตั้งเป็นการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร และโปรดเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าไม่ได้เป็นความเกี่ยวข้องกันกับในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปโดยไม่ลาออกใช่หรือไม่ ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้มี รัฐธรรมนูญ หรือข้อบังคับสภาบอกไว้ว่าต้องย้ายหรือต้องเปลี่ยน
เมื่อถามว่าการที่พรรคก้าวไกลต้องเป็นฝ่ายค้านจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า คิดว่าประธานสภา และรองประสภา ทั้ง 3 คนต้องวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว การเป็นกลางของเราก็คืออำนวยความสะดวก อำนวยการประชุมให้กับสมาชิกทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะฉะนั้นเราทำหน้าที่ได้ไม่ว่าเราจะสังกัดพรรคไหนก็ตาม
ส่วนกระแสข่าวระบุว่าจะยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้กับพรรคประชาธิปัตย์ นั้นเรื่องนี้ต้องให้ทางพรรคเขาหารือกันเอง เพราะว่าตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจา และไม่ได้อยู่ในวงคณะกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกล ดังนั้นการตัดสินใจทั้งหมด ถ้าฝ่ายรัฐบาลชัดเจนแล้วคิดว่าฝ่ายค้านก็ต้องมีความชัดเจนว่าจะดำเนินพันธกิจของฝ่ายค้านอย่างไร และตนก็รอการตัดสินใจของทางฝ่ายค้าน
“ก้าวไกล” เข้าสภาฯเดินหน้าเสนอกฎหมายเปลี่ยนประเทศอีก 4 ชุด 10 ฉบับ
วันนี้ (24 ส.ค.) เซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พร้อมด้วย สส.ก้าวไกลในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลและทำการประมง ร่วมแถลงข่าวเสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ จำนวน 4 ชุด รวม 10 ฉบับ ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูประบบภาษี 3 ฉบับ ชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน 2 ฉบับ ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน 4 ฉบับ และชุดกฎหมายคืนชีวิตชาวประมง 1 ฉบับ

พริษฐ์ กล่าวว่าตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคก้าวไกลทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์และพร้อมทำงานเชิงรุก คือไม่เพียงแต่ตรวจสอบทักท้วงการทำงานของรัฐบาลที่เราคิดว่าไม่ตอบโจทย์ประเทศ แต่จะทำงานเชิงรุกในการผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่เราได้นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงได้ คือการเสนอชุดกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
สส.ก้าวไกล 150 คน หากกฎหมายที่เราเสนอได้รับความเห็นชอบจาก สส. อีก 100 คนขึ้นไป จะทำให้กฎหมายนั้นผ่านสภาฯ นโยบายหลายอย่างที่เราสื่อสารกับพี่น้องประชาชนจะเป็นจริงได้ แม้พรรคก้าวไกลไม่ได้มีอำนาจฝ่ายบริหารแต่ก็ยังสามารถผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนได้