HomeBT Newsย่อข่าวธุรกิจในประเทศ 24 สิงหาคม 2566

ย่อข่าวธุรกิจในประเทศ 24 สิงหาคม 2566


นายกฯ ร่วมงานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ส.ค. 66) เวลา 09.10 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

- Advertisement -


เพื่อประชาสัมพันธ์ “งานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 18” ประจำปี 2566 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566 โดยมีนายศรัญญู พูลลาภ รองอธิบดีกรมหม่อนไหม ว่าที่ร้อยตรี ธีระนันท์ พิจารโชติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีหม่อนไหม นางพรพิณี บุญบันดาล ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ และนางสาวนุชจรี วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีรับฟังความเป็นมาเกี่ยวกับหม่อนไหมและเยี่ยมชมเส้นไหม กระเป๋าผ้าไหม ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ที่ชนะการประกวดการแข่งขันสาวไหม ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์หม่อนไหมระดับประเทศ ประจำปี 2566 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมผู้ผลิต นักออกแบบ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่นำหม่อนไหมมาสร้างสรรค์ผลงาน ใส่ความเป็นไทยจนเกิดความสวยงาม และประณีต ถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทย ขอให้ทุกคนดูแลรักษาความเป็นไทยนี้ไว้และนำไปพัฒนา ต่อยอด ขยายตลาดออกไปสู่ต่างประเทศ

โดยการเอาความทันสมัยมาผสมผสานกับสิ่งที่เรามี เสริมเติมแต่งให้กับยุคสมัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผ้าไหมไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้ประชาชนทุกคน ช่วยส่งเสริมการใช้ผ้าไหมไทยให้แพร่หลายในประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งจะเป็นการสืบสาน รักษา และส่งเสริมผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักไปสู่ระดับสากลได้อีกทางหนึ่งด้วย


“อนุทิน” หารือประธานบริหารสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (23 ส.ค. 66) เวลา 8.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้นายไค ฮัทเทนดอฟ (Mr. Kai Hattendorf) กรรมการผู้จัดการและประธานบริหารสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI, The Global Association of the Exhibition Industry) เข้าพบหารือ โดยมีผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือ ทีเส็บ เข้าร่วมด้วย ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล


โดยการพบหารือมีขึ้นในโอกาสที่นายไค ฮัทเทนดอฟ เดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2566 เพื่อร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ ทีเส็บ และแถลงข่าวการจัดงาน UFI Asia Pacific Conference 2026 ร่วมกับภาคเอกชนไทย

นายอนุทิน กล่าวขอบคุณที่ UFI เลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน UFI Asia Pacific Conference 2026 ซึ่งจะสร้างประโยชน์แก่ประเทศไทยในหลายมิติ อาทิ การต่อยอดจำนวนนักเดินทางต่างชาติจากอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้า เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้า และการบริการที่เกี่ยวเนื่อง และการเดินทางมาไทยครั้งนี้ ประธานบริหาร UFI ก็ได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้ประกอบการไมซ์ไทยหลายราย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากผู้ประกอบไมซ์ไทยมีศักยภาพ และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของไทยด้วย


รองโฆษกฯ เผยความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้หารือกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อยืนยันความพร้อมในการลงทุนในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) ซึ่งขณะนี้การบินไทยพร้อมลงทุน โดยอยู่ระหว่างเจรจาจัดหาพันธมิตรร่วมลงทุน ซึ่งเบื้องต้นมีเอกชนเสนอเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก


ทั้งนี้ จากการที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการและรับฟังรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา การบินไทยได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูจนประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้สถานะกระแสเงินสดมีเพียงพอ จึงมีความพร้อมลงทุนโครงการดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาเพื่อทบทวนรูปแบบการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 3 – 4 เดือน


ครม. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนและประเทศคู่เจรจา

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างเอกสารและร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในกรอบความร่วมมือต่างๆ แถลงการณ์ร่วมอาเชียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (ASEAN Joint Statement on Climate Change to UNFCCC COP 28)


แสดงถึงความมุ่งมั่นของ อาเซียนในการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศและความตกลงปารีสภายใต้หลักความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างโดยคำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศและสถานการณ์ของประเทศที่แตกต่างกัน โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่วดล้อม หรือผู้แทนเห็นชอบ (Endorsement ) ในการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนครั้งที่ 17 ในวันที่ 22-24 สิงหาคม 2566 ณ สปป.ลาว และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนร่วมรับรอง (Adoption) ในการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit ) ครั้งที่ 43 ในวันที่ 5-7 กันยายน 2566 ณ อินโดนีเซีย


ปลื้ม! ผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พบผู้ใช้ซื้อสินค้า สูงสุดกว่าร้อยละ 99

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ ประจำปี 2565


รายงานการสำรวจความพึงพอใจในการจัดประชารัฐสวัสดิการจากผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ได้รับบริการทางสังคม ประจำปี 2565 สรุปผลได้ ดังนี้

(1) ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค – วงเงิน 200 บาท/คน/เดือน อัตราใช้สิทธิร้อยละ 98.21 และอัตรามูลค่าการใช้ร้อยละ 99.92 -วงเงิน 300 บาท/คน/เดือน อัตราใช้สิทธิร้อยละ 98.68 และอัตรามูลค่าการใช้สิทธิร้อยละ 99.91

(2) ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม -วงเงิน 45 บาท/คน/3 เดือน อัตราการใช้สิทธิร้อยละ 24.48 และอัตรามูลค่าการใช้สิทธิร้อยละ 99.75

(3) ค่ารถโดยสารสาธารณะ -รถไฟ วงเงิน 500 บาท/คน/เดือน อัตราใช้สิทธิร้อยละ 0.37 และอัตรามูลค่าการใช้สิทธิเร้อยละ 52.26 -บขส. วงเงิน 500 บาท/คน/เดือน อัตราการใช้สิทธิร้อยละ 0.10 และอัตรามูลค่าการใช้สิทธิร้อยละ 85.83 – ขนส่งในเขต กทม. และปริมณฑล วงเงิน 500 บาท/คน/เดือน อัตราการใช้สิทธิร้อยละ 10.05 และอัตรามูลค่าการใช้สิทธิร้อยละ 33.02

(4) ค่าสาธารณูปโภค – ค่าไฟฟ้า วงเงิน315บาท/ครัวเรือน/เดือน อัตราการใช้สิทธิร้อยละ 7.98 -ค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน อัตราการใช้สิทธิร้อยละ 2.24

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิค่าซื้อสินค้าอุปโภคสูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วงเงินเกือบเต็มจำนวนในคราวเดียว รองลงมาคือ ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ขณะที่สวัสดิการค่าโดยสารรถสาธารณะ มีจำนวนผู้ใช้น้อย เนื่องจากข้อจำกัดประเภทรถโดยสารที่ใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีจำนวนน้อย รวมทั้งยังมีการกำหนดวงเงินแยกรายประเภทรถโดยสาร

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News