เปิดบริษัทป้ายแดงสูงสุดในรอบ 10 ปี มั่นใจเศรษฐกิจไทยหลายด้านฟื้นจริง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงยอดการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประจำเดือนมกราคม 2566 มียอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 8,466 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 คิดเป็น 1.1 เท่า และ เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 6.2% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 20,847 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา คิดเป็น 1.7% อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนมกราคม 2566 เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่สูงสุดในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ และประกอบกับนโยบายการท่องเที่ยวต่างประเทศของประเทศจีน อันเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งสถานการณ์ในภาคการผลิตที่มีการผ่อนคลายลงด้านปัจจัยการผลิต เป็นผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ประมาณที่ 40,000 – 42,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 72,000 – 77,000 ราย
นักท่องเที่ยวจีนแห่จองโรงแรมเมืองไทย เติบโตก้าวกระโดด
SiteMinder, ผู้นำแพลตฟอร์มระดับโลกด้านโฮเทลคอมเมิร์ซแบบ Open Platform เผยข้อมูลใหม่ล่าสุด ที่เห็นถึงยอดการจองห้องพักในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวในประเทศจีนหลังจากที่ประเทศจีนได้มีการคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา

SiteMinder ซึ่งมียอดการจองบนแพลตฟอร์มกว่า 100 ล้านครั้งต่อปี ในกว่า 36,000 โรงแรมทั่ว 150 ประเทศ ได้รับรู้ยอดการจองที่พักในประเทศไทยจากนักเดินทางชาวจีน ที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 108% และมียอดการจองเพิ่มขึ้น 37% ทั่วโลก นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
จากการวิเคราะห์ภาพรวมตลาดในหลายประเทศ ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีการจองที่พักผ่าน SiteMinder เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุด ตามด้วยสเปน (84%), เวียดนาม (51%), ออสเตรเลีย (51%), สิงคโปร์ (44%), และ สหรัฐอเมริกา (43%)
Sankar Narayan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการบริษัท SiteMinder กล่าวว่า “ความต้องการในการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการเปิดประเทศของจีนได้เข้ามามีส่วนสำคัญในการเร่งการเติบโตดังกล่าว”
1 ปีวิกฤตสงคราม ฉุดส่งออกไทยไปรัสเซียลดลงถึงร้อยละ 43.3
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตก ที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังรัสเซียและยูเครน ปรับตัวลดลง 10 เดือนต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 65 ทำให้การส่งออกไปรัสเซียทั้งปี 2565 หดตัวจากปีก่อนถึงร้อยละ 43.3 เช่นเดียวกับการส่งออกไปยูเครนที่หดตัวรุนแรง 12 เดือนต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 ทำให้ทั้งปี 2565 หดตัวร้อยละ 71.4 อันเนื่องมาจากปัญหาด้านระบบขนส่งและโลจิสติกส์ และระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ

แม้ว่าการลดลงของการส่งออกไปยังรัสเซียและยูเครน จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทยในวงจำกัด เนื่องจากมูลค่าการส่งออกไปยังรัสเซียและยูเครนมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับการส่งออกทั้งหมดของไทย แต่ผลกระทบทางอ้อมจากความขัดแย้งและมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกลับส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยเป็นวงกว้าง ทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน ที่ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบและขาดแคลนวัตถุดิบ อาทิ เหล็ก แร่สำหรับผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ ธัญพืช และปุ๋ย เป็นต้น
อินทนิล จับมือ ไจก้า พัฒนากาแฟสหกรณ์ฯ “เทพเสด็จ” สู่ดริปพิเศษ
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากต้นปี 2565 ร้านกาแฟอินทนิล ได้รับการประสานจากความร่วมมือระหว่างประเทศ ถึงโครงการสนับสนุนผลผลิตของสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่ได้รับความร่วมมือจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ในการพัฒนาผลผลิตกาแฟให้แก่สมาชิกสหกรณ์ฯ และปีที่ผ่านมา อินทนิลจัดทำแผนออกสินค้าใหม่ เป็นกาแฟดริป แบบ SINGLE ORIGIN จาก 2 แหล่งเพาะปลูก อย่าง “ป่าแป๋” และ“แม่แจ๋ม”

โดยเลือกกาแฟจากสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา เพื่อออกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อ “เทพเสด็จ” ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกในเขตโครงการหลวงป่าเมี่ยง โดยอินทนิลได้รับซื้อผลผลิตทั้งหมดของสมาชิกสหกรณ์ฯ ในตำบลเทพเสด็จ จ.เชียงใหม่ นำมาคั่วบดจนได้ Taste Note ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและนำมาจำหน่ายในรูปแบบ “อินทนิล ดริปคอฟฟี” ใหม่วางจำหน่ายที่ร้านอินทนิลทั่วประเทศ
นายวิษณุ วงศ์สุมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดย ไจก้า ส่งผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น มาลงพื้นที่กับชาวบ้าน เพื่อศึกษาวิเคราะห์และพัฒนา ผลผลิตของเทพเสด็จให้เป็นเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง จนถึงการมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเป็นสินค้าในร้านอินทนิล
TKN ท็อปฟอร์ม ผลงานปี 65 โตเกินคาด กำไรสุทธิ 434.7 ล้านบาท
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKNผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ ‘เถ้าแก่น้อย’ รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์ชานม Just Drink เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า เติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ กำไรสุทธิ 434.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.7%

ถือเป็นการเติบโตแบบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 182.13 ล้านบาท สะท้อนความสามารถการทำกำไรได้ดีขึ้น ส่วนรายได้จากการขาย 4,366.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 3,610.9 ล้านบาท
ส่วนตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างประเทศจีนนั้น ทำยอดขายผลิตภัณฑ์เถ้าแก่น้อยติดอันดับ Top 5 ในเว็บเถาเป่า ขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกามียอดขายเติบโต 55.3 % จากแผนเจาะตลาดเพิ่มช่องทางขายผ่านร้านค้าปลีก นอกจากนี้ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและเวียดนาม ยังมีส่วนช่วยผลักดันยอดขาย หลังจากเข้าไปทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายในช่วงที่ผ่านมา