HomeBT NewsBusiness Today Thai Politics 23 สิงหาคม 2566 / ภาคบ่าย

Business Today Thai Politics 23 สิงหาคม 2566 / ภาคบ่าย


โปรดเกล้าฯ “เศรษฐา” นายกฯคนที่ 30 รับสนองฯเย็นนี้ที่พรรคเพื่อไทย

คัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า หลังจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ลงมติให้ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯคนที่ 30 ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำเอกสารให้ประธานรัฐสภาลงนาม เพื่อกราบบังคมทูล ถึงผลการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีการโปรดเกล้านายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เรียบร้อยแล้ว แต่หนังสือยังมาไม่ถึง

- Advertisement -


ในวันนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร จะเข้าไปรับหนังสือและนำหนังสือไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร 5 ดวง และนำกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะนำพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯไปยังพรรคเพื่อไทยในเวลา 18.00 น. ซึ่งมีสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตรวจความเรียบร้อยที่พรรคเพื่อไทย ส่วนที่มีข่าวว่า จะมีการโปรดเกล้าฯตั้งแต่เมื่อคืนนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะยังอยู่ในกระบวนการ และทางสำนักงานเลขาธิดารสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ได้แจ้งให้สื่อทราบ แต่วันนี้ได้แจ้งให้ทราบเบื้องต้นแล้ว เพื่อให้สื่อมวลชนได้เตรียมความพร้อม


“ประยุทธ์” ยินดี “เศรษฐา” เป็นนายกฯขอให้ประสบผลสำเร็จ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าวันนี้ถือเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ (ครม.) ในฐานะรัฐบาลรักษาการและช่วงและช่วงนี้มีหลายเรื่องที่เข้ามาสู่การพิจารณา ซึ่งไม่ได้เป็นผลผูกพันอะไร เป็นเรื่องการประชุมในเวทีต่างประเทศ กินแล้วทั้งหมดตามหลักการที่วางไว้แล้วทั้งหมด ซึ่งมีหลายเรื่องรายการประชุมและหลายแถลงการณ์ ไม่มีผลผูกพันอะไรทั้งสิ้นซึ่งคงไม่มีผลผูกพันอะไรทั้งสิ้นถือเป็นแนวปฏิบัติต่างๆที่เราจำเป็นต้องร่วมมือกับภูมิภาค และประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสานต่อในรัฐบาลต่อไปอีกครั้ง


พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจยาวก่อนกล่าวว่าเรื่องที่สื่อมวลชนต้องการจะถาม ผมในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ในขณะนี้ และครม.รักษาการอยู่ในขณะนี้ ขอแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ผ่านการพิจารณาในกระบวนการรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ที่เหลือก็มีขั้นตอนและกระบวนการต่อไป ซึ่งทุกคนคงเข้าใจ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ เป็นพระราชอำนาจและพระราชวินิจฉัยของพระองค์ ต่อไปก็เป็นเรื่องการจัด ครม. ให้ครบถ้วนสมบูรณ์

จากนั้นขั้นตอนก็จะเป็นการเสนอทูลเกล้าฯ ขึ้นไป เพื่อทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ซึ่งก็จะมีการกำหนดวันเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ดังนั้น รัฐบาลผมก็จะหมดหน้าที่พร้อมกันในตอนนั้น เรียบร้อย ต้องมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญานก่อนและมีครม.เรียบร้อย ผมก็หมดหน้าที่ของผม ก็คงต้องแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐาอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดินในโอกาสต่อไป


“ผบ.เรือนจำ” แจงส่งตัว “ทักษิณ”เข้า ร.พ.ตำรวจหลังป่วยหนัก

นัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์มีการส่งตัวทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ ว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายทักษิณมีอาการป่วยกำเริบ ความดันขึ้นสูง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.


โดยเป็นการเคลื่อนย้ายนายทักษิณด้วยรถยนต์ ไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ตามที่มีกระแสข่าว กรมราชทัณฑ์ ได้ย้ายนายทักษิณออกจากแดน 7 หรือห้องพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปยังห้องรักษาตัวผู้ป่วยของโรงพยาบาลตำรวจ ตนได้มีการประสานกับทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีขีดสมรรถนะเฉพาะทาง และเป็นโรงพยาบาลลูกข่ายของราชทัณฑ์

ส่วนกรณีที่เกิดการโยกย้ายทักษิณกระทันหันเนื่องมาจาก 4 โรคหลักที่รุมเร้า และเจ้าตัวมีภาวะความดันสูง อีกทั้งการย้ายการรักษาตัวนายทักษิณในครั้งนี้ เป็นความเห็นชอบจากตน และแพทย์ประจำเรือนจำ เพราะเห็นควรว่าควรได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เหมาะสม ส่วนระยะเวลาการรักษาของทักษิณที่ รพ.ตำรวจ จะสั้นหรือยาวจะขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ ที่เป็นผู้ตรวจรักษาและประเมินอาการ หากมีความเห็นให้รับตัวกลับ ราชทัณฑ์ก็จะดำเนินการรับตัวผู้ต้องขังกลับมาที่เรือนจำตามปกติ

ในการย้ายนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ทางราชทัณฑ์ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ หน่วยดูแลพิเศษจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดดูแลความปลอดภัยทั้งในและนอกเครื่องแบบ โดยบุคคลเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในส่วนการควบคุมภายในเรือนจำ เพื่อไปดูแลความปลอดภัยของนายทักษิณ ขณะการรักษาตัว ทั้งนี้ ตนเองอาจจะไปที่โรงพยาบาลตำรวจตามโอกาสสมควร


“วิษณุ” คาด ครม.ใหม่ทำหน้าที่ได้ปลาย ก.ย.นี้

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทม์ไลน์การทำงานของครม.ชุดเก่าและชุดใหม่ ว่า ไทม์ไลน์ครม.ชุดใหม่จะทำจะทำหน้าที่ได้ในเดือนก.ย.แน่ แต่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ได้หลังแถลงนโยบาย ก็คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน ก.ย. นอกจากนี้ แม้จะมีครม.ชุดใหม่แล้ว ถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จก็ยังทำงานไม่ได้ จนกว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา


ซึ่งจะต้องแถลงภายใน 15 วันหลังจากถวายสัตย์ ถ้าแถลงนโยบายได้เร็ว ก็ทำงานได้เร็ว ถ้าแถลงช้า ก็ทำงานได้ช้า แต่การแถลงนโยบายจะยืดยาวเกิน 15 วันไม่ได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเตรียมร่างนโยบายไว้แล้ว หลังถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จ ก็อาจขอแถลงนโยบายภายใน 3-7 วัน แต่ 7 วันน่าจะเป็นไปได้เพราะต้องพิมพ์นโยบายเพื่อแจกให้สมาชิกดูล่วงหน้า 3 วัน

เหตุที่ครม.ชุดเก่ายังต้องทำงานอยู่ แม้จะโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ก็ยังทำงานไม่ได้ เพราะยังไม่มีครม. ยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ ดังนั้นจึงคาดเดาจากประสบการณ์ ว่า การตั้งครม.จะได้รายชื่อภายใน 1 สัปดาห์ แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นเป็นขั้นตอนทูลเกล้าฯ และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณอีก 1 สัปดาห์ น่าจะใช้ระยะเวลารวมประมาณ 3 สัปดาห์นับจากนี้ไป ซึ่งไทม์ไลน์นี้เป็นการนับอย่างเร็ว และหากเป็นไปตามนี้ การประชุมครม.ชุดเก่ายังต้องมีอยู่ไปในทุกสัปดาห์ เพียงแต่วาระจะมีน้อย


“ศาลรัฐธรรมนูญ” ขยายระยะเวลาให้พิธาแจงปม ‘หุ้นITV’ อีก 30 วัน

รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ส.ค.) มีประชุมปรึกษาหารือคดีที่น่าสนใจแก่สาธารณชน เรื่องพิจารณาที่ 23/2566 กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่


โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ถูกร้อง เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อสารมวลชนใด 1 อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 วรรคหนึ่ง (2)

โดยระหว่างการพิจารณา ผู้ถูกร้องยื่นคำร้อง ลงวันที่ 21 ส.ค. 2566 ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ออกไปอีก 30 วันนับถัดจากวันครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งแรกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตตามขอ

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News