HomeBT Newsตกงาน แบบกะทันหัน แล้วฉันต้องทำตัวอย่างไร

ตกงาน แบบกะทันหัน แล้วฉันต้องทำตัวอย่างไร

ในภาวะที่ COVID-19 กำลังระบาด คนส่วนใหญ่กำลังแพนนิค  มนุษย์เงินเดือนกลัว ตกงาน คนหาเช้ากินค่ำก็บ่นรายได้ไม่พอ ขายของไม่ได้  ธุรกิจหลายใหญ่ก็เข้าสู่ภาวะติดขัด  โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวที่เหมือนผู้ป่วยติดเชื้อบวกด้วยภาวะแทรกซ้อน  บางรายต้องขอลดเงินเดือนพนักงานถ้อยทีถ้อยอาศัย  รักษาพนักงานทั้งหมดไว้

แต่บางรายที่หนักหน่อย  ก็ต้องเลิกจ้าง พนักงานหลายคนก็จะกลายสภาพเป็นคนตกงาน  ต้องจำใจรับสภาพในภาวะแบบนี้  แต่เมื่อคุณต้องตกอยู่ในสภาวะแบบนี้  สิ่งที่ดีที่สุดคือตั้งสติ  แล้วลองทำตามสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้  เพื่อประคับประคองชีวิตตัวเองต่อไป

ตกงาน “ประกันสังคม” สิ่งแรกที่ต้องนึกถึง

ประกันสังคม นี่คือสิ่งแรกที่คนตกงานต้องนึกถึง หากคุณจ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน  และตกงานโดยที่ไม่ได้มีความผิดทางกฎหมาย  สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ “ลงทะเบียนผู้ว่างงาน” เพื่อรับเงินชดเชยรายเดือน

- Advertisement -

แต่เงินชดเชยที่ได้รับจะแตกต่างกันแล้วแต่กรณี กรณีการถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยการว่างงานเป็นระยะเวลาไม่เกินปีละ 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน)

ส่วนในกรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง จะได้รับเงินทดแทนเป็นระยะเวลาไม่เกินปีละ 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน)

> ตรวจสอบรายละเอียด ลงทะเบียนว่างงานประกันสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประกันสังคมเคาะมติช่วยเหลือผู้ประกันตนกรณีโควิด-19และเปิด ลงทะเบียนว่างงาน

เช็คเงินในกระเป๋าทั้งหมด เช็คสุขภาพการเงิน

สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือเช็คสุขภาพการเงิน ณ ขณะนี้  ว่าเงินที่มีทั้งหมดคุณมีอยู่เท่าไหร่  เมื่อรวมทุกสิ่งอย่างเห็นตัวเลขแล้ว  ลองสำรวจค่าใช้จ่ายที่จำเป็นที่ต้องจ่ายออกในทุกๆ เดือน มีอะไรบ้าง  ลิสต์ออกมาเป็น 2 รายการ  คือ ค่าใช้จ่ายจำเป็น และค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น

ค่าใช้จ่ายจำเป็น  เช่น พวกหนี้ต่างๆ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ สิ่งนี้อย่าให้ขาด  เพราะถ้าขาดจะหมายถึงดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม  ส่วนอื่นๆ ก็ดูว่าอะไรบ้างที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่ต่อ  ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์  เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น  พวกค่าเมมเบอร์ฟิตเนส  ค่าบริการแอพพลิเคชั่น  ค่ากาแฟ  ค่าใช้จ่ายโน้นนี่ที่ตัดไปแล้วชีวิตก็อยู่ต่อได้  ไม่ลำบาก  ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตัดออกไปให้หมด ในยามที่คุณ ตกงาน ไม่มีเงินเดือนเหมือนเมื่อก่อน

ลองลิสต์ทั้งหมดแล้วหารเฉลี่ยเงินทั้งหมดที่คุณมีอยู่  คุณก็จะมองเห็นว่า  คุณจะสามารถอยู่ได้ด้วยเงินก้อน  และค่าใช้จ่ายแบบนี้ไปได้กี่เดือน  นั่นเท่ากับว่าทำให้คุณรู้เส้นตายตัวเอง  ว่าคุณจะต้องหางานใหม่ให้ได้ภายในเวลาเท่าไหร่

เมื่อ ตกงาน อย่าลืมจัดการบัตรเครดิต

สำคัญใครที่มีบัตรเครดิต  แล้วยังมีหนี้ค้างจ่ายอยู่  เพื่อรักษาคะแนนเครดิตของคุณให้ดีอยู่  ควรไปติดต่อกับธนาคารเจ้าของบัตร  เพื่อแจ้งปัญหาสภาวะทางเงินของคุณ  เพื่อขอจ่ายเพียงดอกเบี้ยบัตรเครดิตไปก่อน  เนื่องจากคุณไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจ่ายขั้นต่ำ  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนลง

อีกอย่างอย่าลืมไปยกเลิกพวกบริการตัดบัตรอัตโนมัติทุกอย่างด้วย  เพราะคุณจะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มให้กับค่าบริการใช้จ่ายอัตโนมัติเหล่านี้  ตัดไปซะจะได้ลดภาระ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ใครที่ตอนทำงานแล้วส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัททุกเดือน  คุณต้องเลือกว่า  จะคงเงินในกองทุนต่อไป  เพื่อรอได้งานใหม่แล้วย้ายเงินไปเข้ากองทุนของบริษัทใหม่  หรือจะเลือกเอาเงินออกจากกองทุน  เพื่อนำเงินก้อนมาใช้จ่าย

ไม่มีทางเลือกไหนที่ดีที่สุด  แต่คุณต้องถามตัวเองว่าความต้องการ ณ ขณะที่ ตกงาน อยู่เป็นอย่างไง  เงินในกระเป๋ามีเท่าไหร่  ถ้าเงินเก็บมีน้อยมาก  และมองดูแล้วอีกนานกว่าจะหางานได้  เลือกเอาเงินออกมาให้อุ่นใจก็คงดีกว่า  แต่ถ้าไม่เดือนร้อน  มั่นใจว่ามีงานใหม่รองรับ  การคงเงินไว้ก็น่าจะโอเคกว่า

ทั้ง 2 ทางเลือกก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน  ถ้าจะคงเงินไว้จะมีค่าใช้จ่าย  ซึ่งลองติดต่อสอบถามที่ผ่านทรัพยากรบุคคลของแต่ละบริษัทดู  แต่ถ้าจะเงินออกมาก็จะมีภาระภาษีในรอบปีนั้นด้วย  ที่คุณต้องยื่นเป็นเงินได้

ปัดฝุ่น รีซูเม่ อัพเดตใหม่ให้พร้อมใช้

จัดการกับเรื่องการเงินแล้ว  ที่ลืมไม่ได้คือหางานใหม่  รีซูเม่ในมือลองหยิบมาปัดฝุ่นใหม่  เตรียมพร้อมไว้เสมอ  อะไรที่ไม่อัตเดตก็เปลี่ยนแปลงมันซะ  ลองหยิบอันเก่ามาดู  แล้วถามตัวเองว่า  ถ้าคุณเป็น HR คุณเห็นรีซูเม่ตัวเองแล้ว  คุณสะดุดตาหรือยัง  อ่านดูแล้วคุณคิดว่าคุณสมบัติโดดเด่นเพียงพอไหม  ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับปรุงใหม่

ชาร์ตพลังให้ตัวเอง

ถ้ามองในแง่ดี ช่วงนี้ก็ถือเป็นการชาร์ตพลังตัวเอง  ให้เตรียมพร้อมรับกับงานใหม่  สถานที่ใหม่  ก็ถือเอาโอกาสนี้เป็นช่วงเวลาพักผ่อน  พักสมอง  หาอะไรที่เติมพลังชีวิตให้กับตัวเอง  อย่าจมอยู่กับความทุกข์  เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะติดอยู่กับความเศร้า

อีกอย่างอย่ายึดติดกับอะไรในอดีต  พยายามเริ่มต้นใหม่  เช่น คุณเคยทำงานในองค์กรใหญ่ๆ ก็อาจปรับเปลี่ยนไปทำงานในองค์กรเล็กๆ ที่พร้อมต้อนรับคุณ  หรือในอดีตงานในตำแหน่งของคุณเคยมีคนคอยช่วยเหลือ  แต่งานใหม่คุณอาจต้องทำอะไรเองเกือบทั้งหมด  ถ้าคุณก้าวไม่ผ่าน  ยังยึดติดกับรูปแบบงานแบบเดิม  คุณอาจจะจมอยู่ในความทุกข์  จนเสียโอกาสอะไรดีๆ ไปก็ได้

ถ้า ตกงาน จริงๆ สติและกำลังใจ คือสิ่งที่คุณต้องให้กับตัวเอง  เพื่อให้คุณพร้อมที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News